"เราได้ประโยชน์อะไรจากการไปยุ่มย่ามตรวจสอบศีลธรรมของคนอื่น"
"เราได้ประโยชน์อะไรจากการไปยุ่มย่ามตรวจสอบศีลธรรมของคนอื่น (ต้องแยกให้ชัดระหว่างทำผิดศีลธรรมทางศาสนากับการทำผิดกฎหมาย) มันเหมือนเป็นการล่วงล้ำพื้นที่ส่วนตัว ตอนแรกๆ ทำกับคนใกล้ชิด พอหลังๆ ทำกับคนแปลกหน้าทั้งที่ไม่เคยรู้มักคุ้นกันมาก่อน...
ถามว่าแบบนี้มันใช่หรอ!?
พระเองก็ชอบไปเทศน์จี้ชาวบ้าน ทำไมไม่รักษาศีล 5 ไม่เข้าวัด ไม่ทำบุญ ฯลฯ ชอบไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน อ้างว่าเป็นชาวพุทธต้องทำตัวแบบนั้นแบบนี้สิ! ฝั่งชาวบ้านเองก็เกิดกระแสโต้กลับมาว่า.. ทีพระทำไมไม่รู้จักปล่อยวาง ไม่ถือศีลให้บริสุทธิ์ ไม่ปฏิบัติธรรม ไม่นั่งสมาธิสวดมนต์ ไม่ใช่กิจของสงฆ์ ฯลฯ โต้ตอบกันไปมา
และแล้วมันก็กลายเป็นสังคมคนดีมีศีลธรรม.. มันไม่ใช่ศีลธรรมเพื่อเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อหลุดพ้น เพื่อมรรคผลนิพพานอะไรเลย!? แต่มันเป็นศีลธรรมที่คอยขิงคนอื่นว่า.. คุณเป็นคนดีหรือเปล่า? คอยสั่งสอนคนนั้นทีคนนี้ที คอยทำตัวเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
แล้วก็กลายร่างเป็น "ตำรวจศีลธรรม" !!
อย่างไรก็ตาม ยังมีพระเณรและชาวบ้านอีกมาก ที่ไม่ได้ชื่นชอบและไม่ยอมรับพฤติกรรมแบบนี้ ฉะนั้น! จะว่าใครก็แหกตาดูบ้าง ไม่ใช่แก่แล้วก็อัลไซเมอร์ (เสียงแม่ลีน่าจัง)
ธรรมรังษี
Credit: คณะปฏิสังขรณ์การพระศาสนาใหม่ - New Restoration
0 comments: