ตถาคตเลิกให้พรแล้ว
[ณ กรุงราชคฤห์ หมอชีวกโกมารภัจจ์ถือผ้าสิไวยกะ (ผ้าเนื้อดีมีชื่อซึ่งหมอชีวกฯได้รับจากการรักษาพระเจ้าจัณฑปัชโชตแห่งกรุงอุชเชนี) เข้าไปหาพระพุทธเจ้าแล้วกล่าวว่า]
ช: ข้าพระองค์อยากขอพรท่านสักข้อหนึ่ง
พ: ตถาคตเลิกให้พรแล้ว ชีวก
ช: ข้าฯจะขอพรที่สมควรและไม่มีโทษ
พ: จงว่ามาเถิด
ช: ปกติท่านและพระสงฆ์จะใช้ผ้าบังสุกุล (ผ้าเปื้อนฝุ่นห่อศพหรือผ้าที่คนทิ้งแล้ว) เป็นจีวรอยู่ แต่ผ้าสิไวยกะของข้าฯผืนนี้เป็นผ้าที่พระเจ้าจัณฑปัชโชตให้มา เป็นผ้ามีชื่อเนื้อดีกว่าผ้าอื่นๆมาก ขอท่านโปรดรับผ้าสิไวยกะคู่นี้ของข้าฯและขอท่านอนุญาตให้พระสงฆ์ใช้คหบดีจีวร (จีวรที่มีคนถวาย) ได้ด้วยเถิด
[พระพุทธเจ้ารับผ้าสิไวยกะคู่นั้นแล้วได้แสดงธรรมให้หมอชีวกฯฟังและรับไปปฏิบัติ หลังจากหมอชีวกฯกลับไปแล้ว ท่านได้พูดกับภิกษุทั้งหลายว่า]
พ: เราอนุญาตคหบดีจีวร จะใช้ผ้าบังสุกุลหรือผ้าคหบดีก็ขึ้นอยู่กับแต่ละรูป แต่เราสรรเสริญการไม่เลือกรับ โดยให้เป็นไปตามมีตามได้
[หลังจากประชาชนในกรุงราชคฤห์รู้ข่าวว่าพระพุทธเจ้าอนุญาตให้ภิกษุใช้คหบดีจีวรได้ ต่างก็พากันดีใจว่าจะได้ถวายทานบำเพ็ญบุญ เพียงวันเดียวจีวรหลายพันผืนก็ได้เกิดขึ้นทั้งในกรุงราชคฤห์และชนบทรอบๆ]
_____
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 7 (พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 2 จีวรขันธกะ พุทธานุญาตคหบดีจีวร), 2559, น.249-250
รับนิมนต์และสวนที่ถวายโดยหญิงงามเมือง, อนุญาตน้ำปานะ, ต้อนรับพระพุทธเจ้าเพราะกลัวโดนญาติว่า, หลักพิจารณาว่าพระพุทธเจ้าห้ามหรือไม่ห้ามสิ่งใด, กำเนิดหมอชีวกโกมารภัจจ์ (ตอนที่ 1), (ตอนที่ 2), (ตอนที่ 3), (ตอนที่ 4), หมอรักษาพระพุทธเจ้า, ไม่ฉันเนื้อใน 3 กรณี, เหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืม, พระพุทธเจ้ารับการรักษาและรับจีวรจากหมอชีวกโกมารภัจจ์
0 comments: