แก้ปัญหาภิกษุโกสัมพีทะเลาะกัน (ตอนที่ 3)
[ณ วัดโฆสิตาราม ใกล้กรุงโกสัมพี พระพุทธเจ้ายืนท่ามกลางหมู่สงฆ์แล้วกล่าวว่า]
..ภิกษุทั้งหลายลืมสติ สำคัญตัวเป็นผู้มีปัญญา พูดไปตามใจปาก จนพาให้ทะเลาะกัน
ใครจองเวรว่าคนนั้นด่าเรา ตีเรา ชนะเรา ก็จะมีเวรกันต่อไป ส่วนใครที่ไม่จองเวร เวรก็จะหมดไป
แต่ไหนแต่ไรมา เวรทั้งหลายในโลกนี้ย่อมไม่อาจระงับได้ด้วยเวร แต่ย่อมระงับได้ด้วยการไม่จองเวร ธรรมนี้ไม่ใช่ของใหม่
ต้องมีใครในหมู่สงฆ์นี้ที่รู้สึกว่าพวกเรากำลังยับเยินแล้ว ถึงจะเลิกเอาชนะกัน
พวกที่ฆ่ากัน ช่วงชิงแว่นแคว้นกัน ยังกลับมาคบกันได้ แล้วทำไมพวกเธอถึงจะกลับมาคบกันไม่ได้เล่า
ถ้ามีเพื่อนที่มีปัญญา มีธรรมอันดีงาม ก็เหมาะที่จะอยู่ด้วยกัน เดินทางไปด้วยกัน แต่ถ้าไม่มีเพื่อนที่มีปัญญา ก็เดินทางคนเดียวดีกว่า ไม่มีการทำบาป ดุจช้างมาตังคะที่ละฝูงเที่ยวไปในป่าแต่ลำพัง...
[เมื่อท่านกล่าวจบแล้ว ก็เดินทางออกจากกรุงโกสัมพี ไปพาลกโลณการกคาม และต่อไปยังปาจีนวังสทายวันตามลำดับ]
______
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 7 (พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 2 โกสัมพิขันธกะ ตรัสเวรุปสมคาถา), 2559, น.450-452
หลักพิจารณาว่าพระพุทธเจ้าห้ามหรือไม่ห้ามสิ่งใด, กำเนิดหมอชีวกโกมารภัจจ์ (ตอนที่ 1), (ตอนที่ 2), (ตอนที่ 3), (ตอนที่ 4), หมอรักษาพระพุทธเจ้า, ไม่ฉันเนื้อใน 3 กรณี, เหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืม, พระพุทธเจ้ารับการรักษาและรับจีวรจากหมอชีวกโกมารภัจจ์, ตถาคตเลิกให้พรแล้ว, คุณ 5 ข้อของการนอนแบบมีสติรู้ตัว, แก้ปัญหาภิกษุโกสัมพีทะเลาะกัน (ตอนที่ 1), (ตอนที่ 2), (ตอนที่ 3), (ตอนที่ 4), (ตอนที่ 5), (ตอนจบ), "คว่ำบาตร" มีที่มาอย่างไร
0 comments: