บอกเหตุผลว่าทำไมจึงยกตัวอย่างให้ฟังว่าตายแล้วไปไหน
[ณ ป่าไม้ทองกวาว ใกล้บ้านนฬกปานะ แคว้นโกศล พระพุทธเจ้าได้เรียกเหล่ากุลบุตรผู้มีชื่อเสียง (เช่น พระอนุรุทธะ พระภัททิยะ พระกิมพิละ พระภัคคุ พระโกณฑัญญะ พระเรวตะ และพระอานนท์) ที่มาบวชกับท่าน ให้เข้ามาพบแล้วถามว่า]
พ: พวกเธอทั้งหลาย ยังยินดีกับการบวชอยู่ไหม? พระอนุรุทธะ: ยังยินดีอยู่ท่าน. พ: ดี สมควรอยู่ เพราะพวกเธอออกบวชเพราะศรัทธา ไม่ใช่เพราะทำผิดต่อพระราชา ไม่ใช่เพราะถูกโจรไล่จับ ไม่ใช่เพราะหนีหนี้ใคร ไม่ใช่เพราะมีภัยเดือดร้อน และไม่ใช่เพราะอาชีพบีบคั้น พวกเธอบวชเพราะเป็นทุกข์ และอยากหาทางพ้นทุกข์ ใช่ไหม? อ: ใช่อย่างนั้นท่าน.
พ: ถ้าเธอละกามและสิ่งอกุศลได้ ก็จะเกิดปีติและสุขที่ประณีตขึ้นไปตามลำดับ พวกเธอคิดว่าเพราะประโยชน์อะไร ตถาคตจึงบอกพวกเธอว่าภิกษุรูปนั้นรูปนี้ เมื่อมรณภาพไปแล้ว ได้ไปเกิดในภพนั้นภพนี้.
อ: ขอให้ท่านช่วยอธิบายด้วยเถิด
พ: ที่ตถาคตบอก ไม่ใช่เพื่อให้คนพิศวง ให้คนรู้จัก ให้คนหันมานับถือศาสนานี้ หรือเพื่อลาภสักการะอะไร แต่เป็นเพราะเมื่อพวกเธอได้ฟังแล้ว จะทำให้เธอตั้งใจที่จะเป็นอย่างนั้นบ้าง เพื่อประโยชน์สุขของพวกเธอเอง
ถ้าเราบอกว่ามีภิกษุหรือภิกษุณีที่เธอรู้จัก หลังจากมรณภาพ ได้บรรลุนิพพานไปแล้ว ไม่เกิดอีก...[หรือ]เป็นโอปปาติกะ (ผู้ที่ตายแล้วไปผุดเกิดโตเต็มตัวทันที ไม่ต้องมีพ่อแม่) และจะนิพพานในภพนั้นๆ...[หรือ]เป็นพระสกทาคามี จะมาเกิดบนโลกนี้อีกครั้งเดียวและจะบรรลุได้...[หรือ]เป็นพระโสดาบันที่จะบรรลุได้ในอนาคตแน่นอน...เธอก็จะนึกย้อนไปตามที่ได้เห็นหรือได้ยินว่าภิกษุหรือภิกษุณีรูปนั้น ได้ประพฤติปฏิบัติอย่างนั้น มีปัญญาอย่างนี้ เธอก็จะเกิดศรัทธาและตั้งใจปฏิบัติตามอย่าง
หรือถ้าอุบาสกอุบาสิกาได้ฟังเราพูดถึงคนที่เขารู้จักซึ่งตายไปแล้วเป็นโอปปาติกะ และจะนิพพานในภพนั้นๆ... [หรือ]เป็นพระสกทาคามี จะมาเกิดบนโลกนี้อีกครั้งเดียวและจะบรรลุได้...[หรือ]เป็นพระโสดาบันที่จะบรรลุได้ในอนาคตแน่นอน... อุบาสกอุบาสิกาคนนั้นก็จะนึกย้อนไปตามที่ได้เห็นหรือได้ยินว่าเขาคนนั้นประพฤติปฏิบัติอย่างนั้น มีปัญญาอย่างนี้ ก็จะเกิดศรัทธาและตั้งใจปฏิบัติตามอย่าง
ทั้งนี้ ก็เพื่อประโยชน์สุขของพวกเธอทั้งหลายนี่เอง.
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 20 (พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ภาค 2 เล่ม 1 นฬกปานสูตร ข้อ 195), 2559, น.371-381
0 comments: