วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ถ้าสงฆ์ทำตามนี้จะไม่เสื่อมถอย

ถ้าสงฆ์ทำตามนี้จะไม่เสื่อมถอย

[หลังจากที่วัสสการพราหมณ์กลับไปไม่นาน พระพุทธเจ้าให้พระอานนท์แจ้งเหล่าภิกษุในราชคฤห์ทั้งหมดมาประชุมกันที่อุปัฏฐานศาลา เขาคิชกูฏ ใกล้นครราชคฤห์ ซึ่งเมื่อมาพร้อมแล้ว ท่านได้กล่าวว่า]

พ:  ภิกษุทั้งหลาย ตถาคตจะแสดงธรรมที่ป้องกันความเสื่อมถอย (อปริหานิยธรรม) 7 ข้อแก่พวกเธอ เธอจงฟังและจำไว้ให้ดี    ถ้าพวกเธอร่วมประชุมกันตลอด เข้าประชุมพร้อมกัน เลิกพร้อมกัน ทำงานด้วยกัน   ไม่บัญญัติสิ่งที่ตถาคตมิได้บัญญัติ ไม่เพิกถอนสิ่งที่ตถาคตบัญญัติไว้แล้ว และปฏิบัติตามสิ่งที่บัญญัติไว้

เคารพนับถือพระเถระ เชื่อฟังโอวาทของท่านเหล่านั้น ไม่ตกอยู่ในอำนาจของตัณหาซึ่งให้เกิดภพชาติขึ้นใหม่  อยู่อาศัยปฏิบัติธรรมตามป่า  ตั้งใจที่จะทำให้เพื่อนที่มีศีลเข้ามาร่วมปฏิบัติธรรม และทำให้ผู้ที่มาแล้วเป็นอยู่สบาย.   พวกเธอจะมีแต่เจริญขึ้น ไม่เสื่อมถอยลง.  

ยังมีอีกธรรมที่ป้องกันความเสื่อมถอย 7 ข้ออีกหมวดหนึ่ง คือ  -เมื่อพวกเธอไม่พัวพันยินดีในการงานที่วุ่นวาย  -ไม่พัวพันยินดีในการพูดคุยกัน  -ไม่พัวพันยินดีในการนอนหลับ  -ไม่พัวพันยินดีในการคลุกคลีเป็นหมู่คณะ  -ไม่ปรารถนาในสิ่งเลวทราม  -ไม่คบคนชั่วเป็นเพื่อน  -ไม่หยุดเลิกปฏิบัติระหว่างทางเพียงเพราะบรรลุธรรมวิเศษขั้นต่ำเล็กน้อย.    พวกเธอจะมีแต่เจริญขึ้น ไม่เสื่อมถอยลง.   

อีกหมวดหนึ่ง คือ -เมื่อพวกเธอเป็นผู้มีศรัทธา    -เป็นผู้ละอายต่อบาป (หิริ)   -เป็นผู้เกรงกลัวต่อบาป (โอตตัปปะ)  -เป็นผู้รับฟังรอบรู้ (พหูสูต)  -เป็นผู้มีความเพียรพยายาม  -เป็นผู้มีสติ  -เป็นผู้มีปัญญา.    พวกเธอจะมีแต่เจริญขึ้น ไม่เสื่อมถอยลง

อีกหมวดหนึ่ง คือ  -เมื่อพวกเธอมีสติระลึกรู้ (สติสัมโพชฌงค์)  -ศึกษาค้นคว้าธรรมะ (ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์)  -มีความพยายามอยู่เสมอ (วิริยสัมโพชฌงค์)  -มีความอิ่มใจ (ปิติสัมโพชฌงค์)  -มีความสงบเย็นกายใจ (ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์)  -มีสมาธิใจตั้งมั่น (สมาธิสัมโพชฌงค์)  -วางใจเป็นกลางเพราะเห็นสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง (อุเบกขาสัมโพชฌงค์).  พวกเธอจะมีแต่เจริญขึ้น ไม่เสื่อมถอยลง

อีกหมวดหนึ่ง คือ  -เมื่อพวกเธอจำได้หมายรู้ว่าสังขารไม่เที่ยง (อนิจจสัญญา)  -จำได้หมายรู้ว่าสิ่งต่างๆไม่มีแก่นสารถาวรในตัวเอง (อนัตตสัญญา)  -จำได้หมายรู้ว่าร่างกายเป็นของไม่สวยงาม (อสุภสัญญา)  -จำได้หมายรู้ว่าร่างกายมีการเจ็บป่วย (อาทีนวสัญญา)  -จำได้หมายรู้ว่าต้องละบาปอกุศล (ปหานสัญญา)   -จำได้หมายรู้ว่าต้องละราคะ คลายกำหนัด (วิราคสัญญา)  -จำได้หมายรู้ว่านิพพานเป็นที่ดับทุกข์ (นิโรธสัญญา).   พวกเธอจะมีแต่เจริญขึ้น ไม่เสื่อมถอยลง

ยังมีอีกธรรมที่ป้องกันความเสื่อมถอย 6 ข้ออีกหมวดหนึ่ง  -เมื่อพวกเธอปฏิบัติกับเพื่อนด้วยความเมตตาทั้งต่อหน้าและลับหลัง  -เมื่อพวกเธอพูดกับเพื่อนด้วยความเมตตาทั้งต่อหน้าและลับหลัง  -เมื่อพวกเธอคิดกับเพื่อนด้วยความเมตตาทั้งต่อหน้าและลับหลัง   -แบ่งปันสิ่งต่างๆที่ได้มาโดยธรรมกับเพื่อนผู้มีศีล  -ถือศีลไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ถูกตัณหาและทิฏฐิครอบงำ เกิดสมาธิ เป็นผู้เสมอกันในศีลกับเพื่อนทั้งต่อหน้าและลับหลัง  -มีความเห็นที่จะออกจากทุกข์เหมือนกันกับเพื่อนทั้งหลายทั้งต่อหน้าและลับหลัง.   พวกเธอจะมีแต่เจริญขึ้น ไม่เสื่อมถอยลง

ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 13 (พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค ภาค 2 เล่ม 1 มหาปรินิพพานสูตร ข้อ 70), 2559, น.231-239



Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: