วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

“บุคคลผู้กีดกันอกุศลวิตกได้ด้วยหิริ มีอยู่น้อยคนในโลก..."

พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลายว่า  “บุคคลผู้กีดกันอกุศลวิตกได้ด้วยหิริ มีอยู่น้อยคนในโลก,  ภิกษุใดหลบหลีกนินทาได้ ตื่นตัวอยู่ เหมือนม้าชั้นดีหลบแส้ได้  ภิกษุเช่นนั้นมีอยู่น้อยรูป”

“เธอทั้งหลายจงมีความเพียรและมีสังเวคธรรม เหมือนม้าดีที่ถูกลงแส้, เธอทั้งหลายมีศรัทธา ศีล วิริยะ สมาธิ และธัมมวินิจฉัย สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ มีสติมั่นคง จักละทุกข์มีประมาณไม่น้อยนี้ได้”

อธิบายความ

บุคคลห้ามอกุศลวิตก (ความตรึกนึกคิดที่เป็นอกุศล) อันเกิดในภายในจิตใจด้วยความละอายได้ บุคคลเห็นปานนั้นหาได้ยาก จึงชื่อว่า “น้อยคนนักจะมีในโลก”

บุคคลใดไม่ประมาทแล้วทำสมณธรรมอยู่ คอยขับไล่ความหลับที่เกิดแล้วแก่ตน ตื่นอยู่ เพราะฉะนั้น บุคคลนั้นจึงชื่อว่า “กำจัดความหลับ ตื่นอยู่”

บุคคลใดกำจัดความหลับ ตื่นอยู่ เหมือนม้าดีคอยหลบแส้อันจะตกลงที่ตน คือไม่ให้ตกลงที่ตนได้ฉะนั้น บุคคลนั้นจึงหาได้ยาก ฯ   

เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคจึงตรัสเตือนว่า “ภิกษุทั้งหลาย แม้เธอทั้งหลาย  (๑) จงเป็นผู้มีความเพียร  (๒) จงมีความสลดใจ คือมีญาณที่มีโอตตัปปะ ได้แก่ ญาณที่มีความกลัวต่อภัยคือชาติ ชรา มรณะเป็นต้น  เหมือนม้าดีอาศัยความประมาทถูกเขาฟาดด้วยแส้แล้ว รู้สึกตัวว่า ‘ชื่อแม้ตัวเรา ถูกเขาหวดด้วยแส้แล้ว’ ในกาลต่อมา ย่อมทำความเพียรฉะนั้น

เธอทั้งหลายเป็นผู้อย่างนั้นแล้ว  (๑) จงประกอบด้วยศรัทธา ๒ อย่างที่เป็นโลกิยะและโลกุตตระ   (๒) จงประกอบด้วยปาริสุทธิศีล ๔   (๓) จงประกอบด้วยความเพียรเป็นไปทางกายและเป็นไปทางจิต   (๔) จงประกอบด้วยสมาธิสัมปยุตด้วยสมาบัติ ๘   และ (๕) จงประกอบด้วยคุณเครื่องวินิจฉัยธรรมคือรู้เหตุอันควรและเหตุอันไม่ควรเป็นลักษณะ

ชื่อว่ามีวิชชาและจรณะถึงพร้อม เพราะความถึงพร้อมแห่งวิชชา ๓ หรือวิชชา ๘ และจรณะ ๑๕  ชื่อว่าเป็นผู้มีสติมั่นคง เพราะความเป็นผู้มีสติตั้งมั่นแล้ว จักละทุกข์ในวัฏฏะอันมีประมาณไม่น้อยนี้ได้  ดังนี้ ฯ

สาระธรรมจากปิโลติกติสสเถรวัตถุ

พระมหาวัชระ  เชยรัมย์  (ติกฺขญาโณ)

30/7/64



Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: