วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

"เราหยุดแล้ว องคุลิมาล เธอเองก็หยุดเถิด"

เราหยุดแล้ว องคุลิมาล เธอเองก็หยุดเถิด

[ณ แคว้นโกศล ใกล้นครสาวัตถี มีโจรชื่อองคุลิมาล เป็นฆาตกรโหดร้าย ฆ่าคนแล้วตัดนิ้วมือมาร้อยเป็นพวง เช้าวันหนึ่ง ขณะที่พระพุทธเจ้าเสร็จจากบิณฑบาตในตัวเมืองสาวัตถี ก็ได้เดินไปตามทางที่องคุลิมาลซุ่มอยู่ พวกคนเลี้ยงวัวและชาวนาที่เดินมาต่างบอกกับพระพุทธเจ้าว่า]

ค:  ท่านสมณะ อย่าเดินไปทางนั้นเลย มีโจรองคุลิมาลอยู่ เป็นฆาตกรโหดร้าย ขนาดมากันเป็นกลุ่มสิบๆคนก็ยังไม่รอด

[พระพุทธเจ้าได้ยินแล้วก็นิ่งและเดินต่อไป แม้จะมีชาวบ้านเตือนอีกสองครั้งหลังจากนั้นก็ตาม สุดท้ายองคุลิมาลได้เห็นพระพุทธเจ้าเดินมาแต่ไกลรูปเดียวก็เกิดความคิดว่า]

อ:  น่าแปลก คนเป็นสิบยังไม่รอดมือเรา นี่สมณะผู้เดียว ไม่มีใครมาด้วย คงจะมาข่มเรา น่าจะฆ่าเสียดีกว่า

[เมื่อนั้น องคุลิมาลได้ถือดาบ โล่ และสะพายแล่งธนู หวังจะทำร้ายพระพุทธเจ้าจากข้างหลัง แต่ทำอย่างไรองคุลิมาลก็ตามไม่ทัน องคุลิมาลคิดว่า]

อ:   น่าแปลก ที่ผ่านมา จะเป็นช้าง ม้า รถ หรือเนื้อ เราก็วิ่งตามทัน แต่นี่เราวิ่งจนสุดกำลัง กลับตามไม่ทันสมณะที่เดินไปเรื่อยๆซะที

[ขณะนั้น องคุลิมาลจึงหยุดยืนแล้วพูดว่า]

อ:  หยุดก่อนสมณะ.   พ:  เราหยุดแล้ว องคุลิมาล เธอเองก็หยุดเถิด.  

 อ:  สมณะ ท่านกำลังเดินอยู่กลับบอกว่าหยุดแล้ว ผมเองหยุดแล้วแต่ท่านกลับบอกว่ายังไม่หยุด ขอถามหน่อยว่าหยุดแล้วคืออะไร ยังไม่หยุดคืออะไร?   พ:  เราหยุดทำร้ายเบียดเบียนสรรพสัตว์แล้ว จึงชื่อว่าหยุดแล้วในกาลทุกเมื่อ ส่วนเธอยังทำร้ายเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายอยู่ จึงชื่อว่ายังไม่หยุด

อ:  สมณะ ท่านมาถึงป่าใหญ่เพื่อจะสงเคราะห์ผม ผมจะละบาปและฟังธรรมจากท่าน

[พอพูดจบ องคุลิมาลก็ทิ้งดาบและอาวุธลงในเหวลึก และก้มกราบพระพุทธเจ้า ขอบวช ณ ที่นั้น]

พ:  เธอจงมาเป็นภิกษุเถิด

[ลำดับนั้น พระพุทธเจ้าได้เดินกลับเชตวันพร้อมกับพระองคุลิมาล ในเวลาต่อมา ประชาชนได้ไปชุมนุมกันที่ประตูด้านในพระราชวังของพระเจ้า ปเสนทิโกศลเพื่อเรียกร้องให้พระองค์กำจัดองคุลิมาล พระองค์จึงออกจากนครสาวัตถีพร้อมขบวนม้าจำนวนมาก เดินทางไปวิหารเชตวันเพื่อเข้าพบพระพุทธเจ้า]

พ:  มหาบพิตร พระเจ้าพิมพิสารแห่งมคธทำให้ท่านไม่พอใจหรือ หรือว่าเป็นเจ้าลิจฉวีแห่งเวสาลี หรือราชาอื่น?

ป:  หามิได้ท่าน แต่ที่เรามานี่เพราะมีโจรชื่อองคุลิมาล ฆาตกรโหดร้ายอยู่ในแคว้นเรา เราต้องจัดการมันเสีย

พ:  ถ้าท่านได้เห็นองคุลิมาลปลงผม นุ่งผ้ากาสายะ (ผ้าย้อมฝาดสำหรับพระ) ออกบวช เว้นจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ พูดเท็จ ฉันอาหารมื้อเดียว ปฏิบัติธรรม ท่านจะทำอย่างไรกับเขา?

ป:  เราจะลุกไหว้และดูแลคุ้มครองเขาอย่างเป็นธรรม แต่โจรองคุลิมาลซึ่งเป็นคนใจบาปทุศีลขนาดนั้น จะมาเป็นคนถือศีลได้อย่างไรกัน

[ขณะนั้น พระพุทธเจ้าได้ยกมือขวาชี้ไปที่พระองคุลิมาลซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกล]

พ:  มหาบพิตร นั่นองคุลิมาล

[เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลเห็น ก็ตกใจขนลุกหวาดกลัว พระพุทธเจ้าจึงพูดว่า]

พ:  ท่านอย่ากลัวไปเลย ไม่มีอะไรที่ท่านต้องกลัว

[หลังจากที่พระเจ้าปเสนทิโกศลตั้งสติได้ก็เข้าไปหาพระองคุลิมาล]

ป:  พระคุณเจ้าคือองคุลิมาลหรือ?  อ: ใช่ท่าน.   ป:  พ่อแม่ของท่านชื่ออะไรหรือ?  อ:  พ่อชื่อคัคคะ แม่ชื่อมันตานี.  ป:  ขอท่านคัคคะมันตานีบุตรจงเป็นสุขเถิด เราจะถวายจีวรและบิณฑบาต รวมถึงปัจจัยสี่แก่ท่าน.   อ: ไม่เป็นไรท่าน อาตมามีไตรจีวรครบอยู่แล้ว

[จากนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลได้พูดกับพระพุทธเจ้าว่า]

ป:  น่าอัศจรรย์นัก ท่านฝึกคนที่ใครๆก็ฝึกไม่ได้ ให้สงบได้โดยไม่ต้องใช้กำลังและอาวุธเลย ถ้าอย่างนั้นเราขออนุญาตลากลับก่อน.    พ: เชิญท่านเถิด.

ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 21 (พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ภาค 2 เล่ม 2 อังคุลิมาลสูตร ข้อ 521), 2559, น.135-142



Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: