วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

พึงระลึกเสมอว่าเราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงหนึ่งลมหายใจ

พึงระลึกเสมอว่าเราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงหนึ่งลมหายใจ

[ณ ที่พักสร้างด้วยอิฐ ใกล้บ้านนาทิกคาม พระพุทธเจ้าได้กล่าวกับเหล่าภิกษุว่า]

พ: การเจริญมรณสติ (การมีสติระลึกถึงความตาย) ถ้าทำให้มาก จะมีประโยชน์มาก จะนำไปสู่การไม่มีความตาย (การดับกิเลส) ในที่สุด.  เธอทั้งหลายเจริญมรณสติกันบ้างไหม?  

ภ: ภันเต ผมมีเจริญมรณสติอยู่.

พ: ภิกษุ เธอเจริญมรณสติอย่างไร ? ภ: ผมคิดอย่างนี้ว่า โอหนอ เราอาจจะอยู่ได้อีกเพียงหนึ่งคืนหนึ่งวัน เราควรพิจารณาถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า เพียรปฏิบัติธรรมให้มาก ผมเจริญอย่างนี้แล

[ภิกษุอีกรูปก็ตอบว่า]

ภ: ภันเต ผมก็มีเจริญมรณสติอยู่

พ: ภิกษุ เธอเจริญมรณสติอย่างไร ? ภ: ผมคิดอย่างนี้ว่า โอหนอ เราอาจจะอยู่ได้อีกเพียงหนึ่งวัน เราควรพิจารณาถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า เพียรปฏิบัติธรรมให้มาก ผมเจริญอย่างนี้แล

[ภิกษุอีกรูปก็ตอบว่า]

ภ: ภันเต ผมก็มีเจริญมรณสติอยู่

พ: ภิกษุ เธอเจริญมรณสติอย่างไร ?  ภ: ผมคิดอย่างนี้ว่า โอหนอ เราอาจจะอยู่ได้อีกเพียงชั่วขณะที่ฉันบิณฑบาตมื้อหนึ่ง เราควรพิจารณาถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า เพียรปฏิบัติธรรมให้มาก ผมเจริญอย่างนี้แล

[ภิกษุอีกรูปก็ตอบว่า]

ภ: ภันเต ผมก็มีเจริญมรณสติอยู่

พ: ภิกษุ เธอเจริญมรณสติอย่างไร ?  ภ: ผมคิดอย่างนี้ว่า โอหนอ เราอาจจะอยู่ได้อีกเพียงชั่วขณะที่เคี้ยวกลืนข้าวสี่คำ เราควรพิจารณาถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า เพียรปฏิบัติธรรมให้มาก ผมเจริญอย่างนี้แล

[ภิกษุอีกรูปก็ตอบว่า]

ภ: ภันเต ผมก็มีเจริญมรณสติอยู่

พ: ภิกษุ เธอเจริญมรณสติอย่างไร ?   ภ: ผมคิดอย่างนี้ว่า โอหนอ เราอาจจะอยู่ได้อีกเพียงชั่วขณะที่เคี้ยวกลืนข้าวหนึ่งคำ เราควรพิจารณาถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า เพียรปฏิบัติธรรมให้มาก ผมเจริญอย่างนี้แล

[ภิกษุอีกรูปก็ตอบว่า]

ภ: ภันเต ผมก็มีเจริญมรณสติอยู่

พ: ภิกษุ เธอเจริญมรณสติอย่างไร ?   ภ: ผมคิดอย่างนี้ว่า โอหนอ เราอาจจะอยู่ได้อีกเพียงชั่วขณะที่หายใจเข้าออก เราควรพิจารณาถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า เพียรปฏิบัติธรรมให้มาก ผมเจริญอย่างนี้แล

พ: ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุรูปไหนที่เจริญมรณสติว่า เราอาจจะอยู่ได้อีกเพียงหนึ่งคืนหนึ่งวัน..หนึ่งวัน..ชั่วขณะฉันหนึ่งมื้อ..ชั่วขณะเคี้ยวกลืนข้าวสี่คำ เรากล่าวว่าภิกษุนั้นยังเป็นผู้ประมาทอยู่ ยังเจริญมรณสติได้ไม่มากพอ.   ส่วนภิกษุรูปไหนที่เจริญมรณสติว่า เราอาจจะอยู่ได้อีกเพียงชั่วขณะเคี้ยวกลืนข้าวหนึ่งคำ หรือชั่วขณะที่หายใจเข้าออก เรากล่าวว่าภิกษุนั้นเป็นผู้ไม่ประมาท เจริญมรณสติได้มาก.   เพราะเหตุนี้แล เธอจึงควรฝึกเจริญมรณสติให้มาก เพื่อการสิ้นไปของกิเลสทั้งหลาย.

ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 36 (พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต ภาค 3 สาราณียาทิวรรค ปฐมมรณัสสติสูตร ข้อ 290), 2559, น.561-564




Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: