“ว่าด้วยพระเทวทัตถูกอสัทธรรมครอบงำ”
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระเทวทัตถูกอสัทธรรม ๓ ประการครอบงำย่ำยีจิต ต้องไปเกิดในอบาย ต้องไปเกิดในนรก ดำรงอยู่ชั่วกัป แก้ไขไม่ได้
อสัทธรรม ๓ ประการ อะไรบ้าง คือ
๑. พระเทวทัตถูกความปรารถนาชั่วครอบงำย่ำยีจิต ต้องไปเกิดในอบาย ต้องไปเกิดในนรก ดำรงอยู่ชั่วกัป แก้ไขไม่ได้
๒. พระเทวทัตถูกความมีมิตรชั่วครอบงำย่ำยีจิต ต้องไปเกิดในอบาย ต้องไปเกิดในนรก ดำรงอยู่ชั่วกัป แก้ไขไม่ได้
๓. เมื่อยังมีมรรคผลที่ควรทำให้สูงขึ้นไป (แต่) พระเทวทัตกลับมาถึงความเสื่อมเสียกลางคัน เพราะบรรลุคุณวิเศษขั้นต่ำ (พระเทวทัตได้เพียงโลกียฌาน)
ดูกรภิกษุทั้หลาย พระเทวทัตถูกอสัทธรรม ๓ ประการนี้แล ครอบงำย่ำยีจิต ต้องไปเกิดในอบาย ต้องไปเกิดในนรก ดำรงอยู่ชั่วกัป แก้ไขไม่ได้”
เพราะฉะนั้น ไม่ควรมีความปรารถนาชั่วไม่ว่าในกาลไหนๆ ในโลก เพราะว่าบุคคลที่มหาชนยกยองว่า “เป็นบัณฑิต” เป็นที่รู้กันว่าท่านผู้นั้นได้อบรมตนดีแล้วจึงรุ่งเรืองด้วยยศเป็นต้น แต่คนมีความปรารถนาชั่วแม้ฉลาด (แต่) มักสั่งสมความประมาทและประพฤติเบียดเบียนผู้มีศีลธรรมอันดีงาม กับทั้งประทุษร้ายต่อผู้ไม่ประทุษร้ายซึ่งมิได้ทำกรรมชั่ว
อนึ่ง คนมีความปรารถนาชั่ว เมื่อถูกเหล่าคนพาลด้วยกันยกยองก็ยิ่งมีจิตคิดประทุษร้ายไม่มีความเอื้อเฟื้อในผู้อื่นนอกจากตนและพวกพองของตนประพฤติเบียดเบียนแม้สมณะพราหมณ์ผู้สงบ เขายังไม่ถึงความเป็นผู้บรรลุธรรมสูงสุดแต่กลับเสื่อมเสียกลางคันด้วยคุณเพียงลาภยศสรรเสริญเท่านั้น แต่กลับต้องไปเกิดในอบาย ต้องไปเกิดในนรก ดำรงอยู่ชั่วกัป แก้ไขไม่ได้ ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารไปอีกยาวนานนับไม่ได้ ดังนี้.
สาระธรรมจากเทวทัตตสูตร
พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ)
23/7/64
0 comments: