วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ผู้ประเสริฐในสายตาพระพุทธเจ้า

ผู้ประเสริฐในสายตาพระพุทธเจ้า

[ณ ท่าน้ำบุพพโกฏฐกะ ใกล้ปราสาทของมิคารมารดาที่วิหารบุพพาราม นครสาวัตถี ในช่วงเวลาเย็น ขณะที่พระพุทธเจ้ากำลังยืนผึ่งกายให้แห้งหลังอาบน้ำที่ท่าน้ำอยู่นั้น ช้างเผือกของพระเจ้าปเสนทิโกศลก็ขึ้นมาจากท่าน้ำเช่นกันโดยมีเสียงดนตรีตีประโคม และผู้คนต่างกล่าวชมว่าช้างของพระราชาสมบูรณ์งดงามน่าเลื่อมใสยิ่งนัก พระกาฬุทายีได้ยินเข้า จึงถามพระพุทธเจ้าว่า]

ก:  ภันเต ผู้คนแค่เห็นช้างเผือกหรือสัตว์อื่นๆที่ตัวใหญ่สูง มีอวัยวะครบสมบูรณ์ ก็เพียงพอแล้วหรือที่จะกล่าวกันว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ?

พ:  กาฬุทายี ผู้คนเห็นช้างเผือกที่ตัวใหญ่สูง มีอวัยวะครบสมบูรณ์ ก็กล่าวชมว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ เห็นม้าตัวใหญ่ โคตัวใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ คนที่ร่างกายสูงใหญ่มีอวัยวะสมบูรณ์ ก็กล่าวชมว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ

อนึ่ง บุคคลใดที่ไม่ทำความชั่วทั้งกายวาจาใจ ทั้งในโลกนี้รวมถึงเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์ทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ เราเรียกบุคคลนั้นว่า ผู้ประเสริฐ (นาค)

ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 36 (พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต ภาค 3 ธรรมิกวรรค นาคสูตร ข้อ 314), 2559, น.632-633




Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: