เรื่อง เหตุปัจจัยของสมาธิ โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)
ธรรมสมาธิ ประโยชน์ที่ควรเน้นในการปฏิบัติธรรม :- 1. ปราโมทย์ (ความชื่นบานใจ ร่าเริงสดใส) 2. ปีติ (ความอิ่มใจ, ความปลื้มใจ) 3. ปัสสัทธิ (ความสงบเย็นกายใจ, ความผ่อนคลายรื่นสบาย) 4. สุข (ความรื่นใจไร้ความข้องขัด) 5. สมาธิ (ความสงบอยู่ตัวมั่นสนิทของจิตใจ ไม่มีสิ่งรบกวนเร้าระคาย)
นาทีที่ ๒๘.๐๖ ...ปราโมทย์ ปีติ ปัสสัทธิ สุข สมาธิ
เป็นเรื่องของการใช้ประโยชน์ที่ควรเน้นในการที่เราเรียกว่าปฏิบัติธรรม เพราะว่าพระพุทธเจ้าตรัสในพระสูตรมากมายหลายแห่ง เท่ากับเป็นการแสดงความก้าวหน้า ว่าเมื่อปฏิบัติถูกต้องเนี่ย คุณสมบัติของจิตหรือสภาวะจิตหรือองค์ธรรมเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้น และจะเป็นองค์ธรรมที่เกื้อหนุนความเจริญงอกงามในธรรมต่อไป แล้วก็พื้นใจก็อย่างที่ว่าควรจะให้ทุกคนทั้งพระทั้งโยมเนี่ย มีพื้นใจเป็นปราโมทย์ ปราโมทย์ใจ สดชื่นเบิกบาน ถ้าใจมีนิวรณ์ ฝ่ายตรงข้ามนั้นมีอะไร อ้าว ฝ่ายถีนมิทธะพวกนั้น ก็จะห่อเหี่ยว หดหู่ เซื่องซึม อะไรพวกนี้เป็นซึมเศร้าไป ... พวกนี้ก็เหมือนกับของที่จะใช้ทำอะไร มันย่นย่อห่อเหี่ยว มันเหลวเละ มันจะไปใช้ได้เหรอ ใช่ไหม ทีนี้ตรงข้ามก็ฝ่าย อุทธัจจะกุกกุจจะ ก็เป็นอันว่าฟุ้งซ่าน วุ่นวาย เดือดร้อน อะไรต่างๆเหล่านี้.
ไปเครียด ไปตรงข้าม พวกนี้ก็เหมือนกับของใช้ที่มันกระจัดกระจาย ... มันก็ทำงานไม่ได้ดี เพราะงั้นก็เรื่องจิตเนี่ย ไม่ต้องนึกถึงสมาธิทันที เพราะว่าสมาธินั้นมาจากนี้ ถ้าท่านแม้แต่ในชีวิตประจำวันเนี่ยทำกิจการทั้งหลายด้วยจิตมีปราโมทย์ จะทำให้จิตท่านพร้อมที่จะไปเจริญสมาธิ เพราะมันพร้อมอยู่แล้ว มันจะไปของมันอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าตรัสว่า :-
เมื่อองค์ธรรมข้อนี้พร้อมแล้วไม่ต้องเรียกร้อง องค์ธรรมต่อไปก็มาเอง อันนี้ตรัสบ่อย ใช่ไหม ในสังยุตตนิกาย จะมีเรื่องอย่างนี้ คือ ธรรมะเป็นปัจจัยของเขาเอง เราไม่ต้องไปเรียกร้องเขา เราทำให้ถูกก็แล้วกัน ทำปัจจัยให้พร้อมแล้วผลมันก็เกิดขึ้น เพราะนั่นเราทำจิตของเราให้พร้อม ทำปราโมทย์มา ก็เปิดทางให้ปีติมา ปีติมาปัสสัทธิก็ตามมา ปัสสัทธิมาสุขก็มา สุขมาก็เปิดทางให้สมาธิ เพราะถ้าท่านไปปฏิบัติไปเครียด มันก็ทุกข์สิ ทุกข์มันก็บีบครั้น จิตมันก็ดิ้นรน สมาธิก็มาไม่ได้....
ที่มา : https://www.youtube.com/channel/UCiwwv2JY5atSYS1ICGlidkw
0 comments: