วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2564

พระธรรมมีสภาวะเป็นคุณอย่างไร ? มีเท่าไร ? ต้องเรียนรู้พระธรรมไปเพื่ออะไร ?

ธมฺโม  แปลว่า  "พระธรรม",  พระธรรมมีสภาวะเป็นคุณอย่างไร ? มีเท่าไร ? ต้องเรียนรู้พระธรรมไปเพื่ออะไร ?

มีพระบาลีว่า  อตฺตานํ ธาเรนฺเต จตูสุ อปาเยสุ วฏฺฏทุกฺเขสุ จ อปตมาเน กตฺวา ธาเรตีติ ธมฺโม  แปลว่า  " สภาวะใดย่อมทรงไว้ซึ่งเหล่าสัตว์ผู้ทรงตน (ผู้ทรงธรรมประพฤติธรรม) ไว้ไม่ให้ตกไปในอบายภูมิ ๔ และในวัฏทุกข์ทั้งหลาย (วัฏทุกข์ คือ ทุกข์เพราะการเวียนว่ายตายเกิด) เพราะเหตุนั้น สภาวะนั้นชื่อว่าพระธรรม" 

พระธรรมมี ๙ ประการ คือ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ รวมกับปริยัติธรรมก็มี ๑๐ ประการ 

พระธรรมนั้นท่านกล่าวว่า  "มีความดำรงอยู่ตลอดเวลา คือสามารถช่วยกำจัดกิเลสที่จะทำให้สัตว์ไปบังเกิดในอบายภูมิเป็นต้นได้"  การช่วยกำจัดกิเลสของพระธรรมนั้น ว่าโดยตรง ได้แก่ อริยมรรค (๔) ที่เป็นสภาวะกำจัดกิเลสได้เป็นสมุจเฉทปหานคือตัดกิเลสได้เด็ดขาด และได้แก่พระนิพพาน โดยอริยมรรคเป็นเหตุสำเร็จประโยชน์คือสามารถกำจัดกิเลสได้ก็โดยมีพระนิพพานเป็นอารมณ์นั่นเอง  แต่ว่าโดยอ้อม การช่วยกำจัดกิเลสของพระธรรมได้แก่อริยผล เพราะเมื่ออริยมรรคตัดกิเลสได้แล้ว อริยผลก็เป็นคุณที่ยังดำรงอยู่คล้อยตามมรรคคือกิเลสที่ละได้แล้วก็ไม่สามารถกลับมาเกิดได้อีก 

ส่วนพระปริยัติธรรมนั้นก็สำคัญ ท่านกล่าวไว้ว่า  ปริยตฺติยา จ ตทธิคมเหตุตาย  แปลว่า  "เพราะปริยัติธรรมเป็นเหตุแห่งการได้บรรลุมรรคผลและนิพพานนั้น”

ท่านทั้งหลายเคารพพระธรรมคือทรงธรรมประพฤติธรรม เพราะพระธรรมสามารถช่วยเราไม่ให้ตกไปสู่อบายภูมิ ๔  พระธรรมก็คือมรรคผลและนิพพานและจะบรรลุมรรคผลนิพพานได้ก็ต้องอาศัยพระปริยัติธรรม คือต้องศึกษาหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ให้เข้าใจถูกต้องตรงตามธรรมนั้นทุกประการ จนสามารถปฏิบัติตามพระธรรมได้ถูกต้องนำมาซึ่งมรรคผลนิพพานอันเป็นคุณแท้ของพระธรรม  อย่าให้ใครนำธรรมปฏิรูป (ธรรมเทียม สิ่งที่ไม่ใช่ธรรมแท้) มาหลอกเราได้และให้เรานั้นเดินหลงทางหรือหลงผิดไป.

พระมหาวัชระ เชยรัมย์


Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: