วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ฉันเนื้อได้ด้วยเงื่อนไข 3 ข้อ

ฉันเนื้อได้ด้วยเงื่อนไข 3 ข้อ

[ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน ใกล้กรุงเวสาลี หลังจากที่สีหเสนาบดีเห็นธรรมแล้ว ได้นิมนต์พระพุทธเจ้าพร้อมภิกษุสงฆ์ให้รับภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น พอสีหเสนาบดีกลับกรุงเวสาลีก็สั่งมหาดเล็กคนหนึ่งว่า]

ส:  เจ้าจงไปหาซื้อเนื้อสดที่เขาขายมา

[จากนั้นได้สั่งให้นำไปทำอาหารถวายพระพุทธเจ้า]

[เช้าวันรุ่งขึ้น มีมหาดเล็กคนหนึ่งเข้าไปกระซิบสีหเสนาบดีว่า]

ม:  เมื่อเช้ามีนิครนถ์ (นักบวชในศาสนาเชน) หลายคนเดินไปตามถนนสี่แยกสามแยกทั่วกรุงเวสาลี ร้องบอกผู้คนว่าวันนี้สีหเสนาบดีล้มสัตว์เลี้ยงตัวอ้วนๆไปทำอาหารให้พระสมณโคดม พระสมณโคดมก็ฉันเนื้อนั้นทั้งๆที่รู้อยู่ว่าเขาเจาะจงฆ่ามาทำอาหารให้

ส:  ช่างเถอะ ท่านเหล่านั้นตั้งใจติเตียนพระพุทธเจ้า คำสอน และพระสงฆ์ในศาสนาของท่านมานานแล้ว แต่งเรื่องขึ้นมากล่าวหาท่านต่างๆนานาก็ยังไม่หนำใจอีก พวกเราเองก็ไม่ได้มีเจตนาจะไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอะไรเลย

[เมื่อพระพุทธเจ้าได้มาถึงบ้านของสีหเสนาบดี สีหเสนาบดีก็ถวายภัตตาหารแก่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ เมื่อท่านฉันเสร็จแล้วก็ได้แสดงธรรมแก่สีหเสนาบดีตามสมควรและลุกกลับไป โดยในเวลาต่อมา ท่านได้กล่าวกับภิกษุทั้งหลายว่า]

พ:  ภิกษุต้องไม่ฉันเนื้อที่รู้ว่าเขาเจตนาฆ่ามาทำอาหารให้ ถ้าฉันทั้งๆที่รู้ จะต้องอาบัติ (โทษจากการละเมิดข้อห้าม) เราอนุญาตปลาและเนื้อที่บริสุทธิ์ทั้ง 3 ข้อคือ ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน และไม่ได้สงสัย (ว่าฆ่าเพื่อให้เราฉัน)

ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 7 (พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 2 เภสัชชขันธกะ พุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อที่เขาทำจำเพาะ), 2559, น.125-127

ที่มาของการกำหนดวินัยสงฆ์ข้อแรก,  ที่มาของการห้ามรับเงินทอง,  ไม่คิดแพ้ชนะ,  ทำเขาไว้อย่างไร ก็โดนคืนอย่างนั้น,  บาปและบุญคือเงาตามตัวไปโลกหน้า,  วิธีดึงให้หันมาหาแก่นแท้,  ไม่ตึงไม่หย่อนไป,  เมื่อรู้แจ้งอริยสัจ 4 แล้ว จะไม่มีการเกิดอีก,  คนพาลที่ไปเกิดเป็นสัตว์แล้วจะกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้งนั้นยากแค่ไหน,  รับนิมนต์และสวนที่ถวายโดยหญิงงามเมืองการกล่าวไตรสรณคมน์ (การถึงที่พึ่งทั้งสาม) 3 ครั้ง





Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: