2. หมวดไม่ประมาท - Heedfulness
1. อปฺปมาโท อมตํ ปทํ ปมาโท มจฺจุโน ปทํ
อปฺปมตฺตา น มียนฺติ เย ปมตฺตา ยถา มตา ฯ21ฯ
ความไม่ประมาท เป็นทางอมตะ ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย
ผู้ไม่ประมาท ไม่มีวันตาย ผู้ประมาท ถึงมีชีวิตอยู่ก็เหมือนคนตายแล้ว
Heedfulness is the way to the Deathless; Heedlessness is the way to death.
The heedful do not die; The heedless are like unto the dead.
2. เอตํ วิเสสโต ญตฺวา อปฺปมาทมฺหิ ปณฺฑิตา
อปฺปมาเท ปโมทนฺติ อริยานํ โคจเร รตา ฯ22ฯ
บัณฑิตรู้ข้อแตกต่าง ระหว่างความประมาทกับความไม่ประมาท
จึงยินดีในความไม่ประมาท อันเป็นแนวทางของพระอริยะ
Realizing this distinction, The wise rejoice in heedfulness,
Which is the way of the Noble.
3. เต ฌายิโน สาตติกา นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกมา
ผุสนฺติ ธีรา นิพฺพานํ โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ ฯ23ฯ
ท่านผู้ฉลาดเหล่านั้น หมั่นเจริญกรรมฐาน มีความเพียรมั่นอยู่เป็นนิจศีล
บรรลุพระนิพพานอันเป็นสภาวะที่สูงส่ง อิสระจากกิเลสเครื่องผูกมัด
These wise, constantly meditative, Ever earnestly persevering,
Attain the bond-free, supreme Nibbana.
4. อุฎฺฐานวโต สติมโต สุจิกมฺมสฺส นิสสมฺมการิโน
สญฺญตสฺส จ ธมฺมชีวิโน อปฺปมตฺตสฺส ยโสภิวฑฺฒติ ฯ24ฯ
ยศย่อมเจริญแก่ผู้ขยัน มีสติ มีการงานสะอาด
ทำงานด้วยความรอบคอบระมัดระวัง เป็นอยู่โดยชอบธรรม ไม่ประมาท
Of him who is energetic, mindful, Pure in deed, considerate, self -restrained,
Who lives the Dhamma and who is heedful, Reputation steadily increases.
5. อุฎฺฐาเนนปฺปมาเทน สญฺญเมน ทเมน จ
ทีปํ กยิราถ เมธาวี ยํ โอโฆ นาภิกีรติ ฯ25ฯ
ด้วยความขยัน ด้วยความไม่ประมาท ด้วยความสำรวมระวัง และด้วยการข่มใจตนเอง
ผู้มีปัญญาควรสร้างเกาะ(ที่พึ่ง)แก่ตนเอง ที่ห้วงน้ำ(กิเลส) ไม่สามารถท่วมได้
By diligence, vigilance, Restraint and self-mastery,
Let the wise make for himself an island That no flood can overwhelm.
6. ปมาทมนุยุญฺชนติ พาลา ทุมฺเมธิโน ชนา
อปฺปมาทญฺจ เมธาวี ธนํ เสฎฺฐํว รกฺขติ ฯ26ฯ
คนพาล ทรามปัญญา มักมัวประมาทเสีย ส่วนคนฉลาด ย่อมรักษาความไม่ประมาท
เหมือนรักษาทรัพย์อันประเสริฐ
The ignorant, foolish folk Indulge in heedlessness, But the wise preserve heedfulness
As their greatest treasure.
7. มา ปมาทมนุยุญฺเชถ มา กามรติสนฺถวํ
อปฺปมตฺโต หิ ฌายนฺโต ปปฺโปติ วิปุลํ สุขํ ฯ27ฯ
พวกเธออย่ามัวประมาท อย่ามัวเอาแต่สนุกยินดีในกามคุณอยู่เลย
ผู้ไม่ประมาท เพ่งพินิจตามความเป็นจริงเท่านั้น จึงจะบรรลุถึงความสุขอันไพบูลย์ได้
Devote not yourselves to negligence; Have no intimacy with sensuous delights.
The vigilant, meditative person Attains sublime bliss.
8. ปมาทํ อปฺปมาเทน ยถา นุทติ ปณฺฑิโต
ปญฺญาปาสาทมารุยฺห อโสโก โสกินี ปชํ
ปพฺพตฎฺโฐว ภุมฺมฎฺเฐ ธีโร พาเล อเวกฺขติ ฯ28ฯ
เมื่อใดบัณฑิตกำจัดความประมาทด้วยความไม่ประมาท เมื่อนั้นเขานับว่าได้ขึ้นสู่"ปราสาทคือปัญญา"
ไร้ความเศร้าโศก สามารถมองเห็นประชาชน ผู้โง่เขลา ผู้ยังต้องเศร้าโศกอยู่ เหมือนคนยืนบนยอดภูเขามองลงมาเห็นฝูงชนที่ยืนอยู่บนพื้นดิน ฉะนั้น
When banishing carelessness by carefulness, The sorrowless, wise one ascends the terrace of wisdom
And surveys the ignorant, sorrowing folk As one standing on a mountain the groundlings.
9. อปฺปมตฺโต ปมตฺเตสุ สุตฺเตสุ พหุชาคโร
อพลสฺสํว สีฆสฺโส หิตฺวา ยาติ สุเมธโส ฯ29ฯ
ผู้มีปัญญามักไม่ประมาท เมื่อคนอื่นพากันประมาท และตื่น เมื่อคนอื่นหลับอยู่
เขาจึงละทิ้งคนเหล่านั้นไปไกล เหมือนม้าฝีเท้าเร็ว วิ่งเลยม้าแกลบ ฉะนั้น
Heedful among the heedless, Wide-awake among those asleep,
The wise man advances As a swift horse leaving a weak nag behind.
10. อปฺปมาเทน มฆวา เทวานํ เสฎฺฐตํ คโต
อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ ปมาโท ครหิดต สทา ฯ30ฯ
ท้าวมฆวานได้เป็นใหญ่กว่าทวยเทพ เพราะผลของความไม่ประมาท
บัณฑิตจึงสรรเสริญความไม่ประมาท และติเตียนความประมาททุกเมื่อ
By vigilance it was that Indra attained the lordship of the gods. Earnestness is ever praised, Carelessness is ever despised.
11. อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ ปมาเท ภยทสฺสิ วา
สญฺโญชนํ อณุํ ถูลํ ฑหํ อคฺคีว คจฺฉติ ฯ31ฯ
ภิกษุผู้ยินดีในความไม่ประมาท เห็นภัยในความประมาท
ย่อมเผากิเลสเครื่องผูกมัดได้ เหมือนไฟเผาเชื้อทุกชนิด
The bhikkhu who delights in earnestness And discerns dangers in negligence,
Advances, consuming all fetters, Like fire burning fuel, both small and great.
12. อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ ปมาเท ภยทสฺสิ วา
อภพฺโพ ปริหานาย นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก ฯ32ฯ
ภิกษุผู้ไม่ประมาท เห็นภัยในความประมาท ไม่ม่ทางเสื่อม ย่อมอยู่ใกล้นิพพานเป็นแน่แท้
The bhikkhu who delights in earnestness, And discerns dangers in negligence,
Is not liable to fall away; He is certainly in the presence of Nibbana.
ที่มา : หนังสือพุทธวจนในธรรมบท โดย อ.เสถียรพงศ์ วรรณปก
ที่มา : dhammathai
1. หมวดคู่ - THE PAIRS, 2. หมวดไม่ประมาท - Heedfulness, 3. หมวดจิต - The Mind, 4. หมวดดอกไม้ - THE FLOWERS, 5. หมวดคนพาล - THE FOOL, 6. หมวดบัณฑิต - The Wise, 7. หมวดพระอรหันต์ - THE WORTHY, 8. หมวดพัน - THE THOUSANDS, 9. หมวดบาป - EVIL, 10. หมวดลงทัณฑ์ - PUNISHMENT, 11. หมวดชรา - OLD AGE, 12. หมวดตน - THE SELF, 13. หมวดโลก - THE WORLD, 14. หมวดพระพุทธเจ้า - THE ENLIGHTENED ONE, 15. หมวดความสุข - HAPPINESS, 16. หมวดความรัก - AFFECTIONS, 17. หมวดความโกรธ - ANGER, 18. หมวดมลทิน - IMPURITY, 19. หมวดเที่ยงธรรม - THE JUST, 20. หมวดทาง - THE PATH, 21. หมวดเบ็ดเตล็ด - MISCELLANEOUS, 22. หมวดนรก - HELL, 23. หมวดช้าง - THE ELEPHANT, 24. หมวดตัณหา - CRAVING, 25. หมวดภิกษุ - THE MONK, 26. หมวดพราหมณ์ - THE BRAHMANA
0 comments: