วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2564

อานาปานสติ

อานาปานสติ เป็นวิหารธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอยู่มากที่สุด จนสมควรที่จะได้นามว่าเป็น "ตถาคตวิหาร" คือเป็นวิหารธรรมของพระตถาคต

ว่าเป็น "อริยวิหาร" คือเป็นวิหารธรรมเครื่องอยู่ของพระอริยเจ้าทั้งหลาย  และว่าเป็น "พรหมวิหาร" คือเป็นวิหารธรรมเครื่องอยู่ของผู้ที่เป็นพรหม

พึงสังเกตว่าพรหมในที่นี้หมายถึงพระอรหันต์ ซึ่งเป็นพรหมอีกประเภทหนึ่งต่างหาก จากพรหมธรรมดา แม้ที่เป็นปุถุชนซึ่งมีพรหมวิหารเป็นเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ดังที่ทราบกันอยู่ทั่วไป

ส่วนที่สำคัญไปกว่านั้น ยังมีต่อไปอีก คือข้อที่ว่าอานาปานสตินี้ ทำผู้ที่ยังไม่สิ้นอาสวะ ให้สิ้นอาสวะ ทำผู้ที่สิ้นอาสวะแล้ว ให้มีความอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม และให้เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยสติสัมปชัญญะอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อรวมเข้าด้วยกันทั้ง ๒ ประเภทแล้ว ทำให้กล่าวได้ว่า ในบรรดาสมาธิภาวนา ซึ่งมีอยู่ ๔ ประเภทนั้น อานาปานสติเป็นสมาธิภาวนาถึง ๓ ประเภทได้จริงๆ กล่าวคือเป็นสมาธิภาวนา ประเภททำให้อยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม ประเภทที่ทำให้สมบูรณ์ด้วยสติสัมปชัญญะ และประเภทที่ได้ทำอาสวะให้สิ้น ซึ่งจัดเป็นสมาธิภาวนา ประเภทที่หนึ่ง ที่สาม และที่สี่ตามลำดับ ยังขาดอยู่แต่ประเภทที่สองคือ สมาธิภาวนา ที่เป็นเหตุให้ได้ญาณทัสสนะอันเป็นทิพย์ มี ทิพย์ ตาทิพย์ เป็นต้น ซึ่งเราไม่ประสงค์ใน

ที่นี้ เพราะไม่เป็นไปเพื่อความดับทุกข์แต่ประการใด

นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า อานาปานสติสมาธิ เบ็นสิ่งที่มีคุณประโยชน์อันเพียงพอแก่ความต้องการของบุคคล ผู้ประสงค์จะทำความดับทุกข์ โดยแท้จริง

สรุปความสั้นๆ ว่า อานาปานสติ เป็นประโยชน์ถึงที่สุด ทั้งแก่บุคคลที่ไม่สิ้นอาสวะ และบุคคลที่สิ้นอาสวะแล้ว นับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างน่าอัศจรรย์ที่เดียว

อานาปานสติภาวนา (น.๕๒๑),  ธรรมโฆษณ์ l พุทธทาสภิกขุ

Credit: สโมสรธรรมทาน - co dhamma space







Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: