พระพุทธเจ้าปลงสังขาร
[ในเวลาเช้า หลังจากพระพุทธเจ้าได้กลับจากบิณฑบาตในกรุงเวสาลีแล้ว ท่านได้บอกให้พระอานนท์ถือที่รองนั่งแล้วเข้าไปยังปาวาลเจดีย์ด้วยกันเพื่อพักกลางวัน เมื่อถึงเรียบร้อยแล้ว พระพุทธเจ้าก็กล่าวกับพระอานนท์ว่า]
พ: อานนท์ นครเวสาลีนี้เป็นที่รื่นรมย์ อุเทนเจดีย์...ปาวาลเจดีย์ก็เป็นที่รื่นรมย์ ตถาคตมีอิทธิบาท 4 มาก (ปัจจัยของความสำเร็จ 4 ข้อ คือ 1) ฉันทะได้แก่ความรักในสิ่งนั้น 2) วิริยะ ได้แก่ความพยายามทำในสิ่งนั้น 3) จิตตะ ได้แก่ความใส่ใจในสิ่งนั้น และ 4) วิมังสา ได้แก่ การใช้เหตุผลปัญญาในการพิจารณาในสิ่งนั้น) ถ้าตถาคตต้องการ ก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดกัปหรือเกินกว่ากัป (มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกได้)
[พระอานนท์เมื่อฟังแล้วก็เงียบอยู่ แม้พระพุทธเจ้าจะพูดอีกเป็นครั้งที่สองและสาม ก็ยังเงียบเหมือนเดิม จากนั้นพระพุทธเจ้าจึงกล่าวว่า]
พ: อานนท์ เธอไปได้แล้ว
[พระอานนท์จึงลุกไปนั่งอยู่ที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่งในที่ไม่ไกลนัก ขณะนั้น มารได้มาพูดกับพระพุทธเจ้าว่าถึงเวลาที่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพานแล้ว เพราะคำสอนของท่านได้แพร่หลายออกไปมาก เป็นปึกแผ่นแล้ว พระพุทธเจ้าจึงได้พูดกับมารว่า]
พ: ท่านไม่ต้องบอกหรอก ในไม่ช้า จากนี้ล่วงไป 3 เดือน ตถาคตจะปรินิพพาน
[เมื่อนั้น พระพุทธเจ้าได้ปลงอายุสังขารด้วยสติสัมปชัญญะแล้ว ณ ปาวาลเจดีย์แห่งนี้ โดยหลังจากนั้น พระพุทธเจ้าได้เล่าให้พระอานนท์ฟังทั้งหมด พระอานนท์จึงกล่าวว่า]
อ: ขอท่านอยู่ต่อตลอดกัปเถิด เพื่อประโยชน์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
พ: อย่าเลยอานนท์ อย่าวิงวอนตถาคตเลย บัดนี้ไม่ใช่เวลาที่จะวิงวอนแล้ว
อ: แต่ท่านมีอิทธิบาท 4 มาก ถ้าจะอยู่ต่อตลอดกัปก็ทำได้
พ: เธอเชื่อหรือ?
อ: ข้าฯเชื่อ
พ: ถ้าอย่างนั้น เรื่องนี้ก็เป็นความผิดพลาดของเธอ เพราะตถาคตก็เปิดโอกาสให้แล้ว แต่เธอไม่ทันรู้ จึงไม่ได้วิงวอนตถาคตเสียตอนนั้น ถ้าเธอขอไว้ ตถาคตจะห้ามเธอสองครั้งเท่านั้น และจะรับคำขอของเธอในครั้งที่สาม นี่จึงเป็นความผิดพลาดของเธอผู้เดียว
[ต่อจากนั้น พระพุทธเจ้าก็ได้เล่าย้อนว่า ได้เคยปรารภแบบนี้กับพระอานนท์มาหลายครั้งแล้วตามที่ต่างๆ แต่พระอานนท์ก็ไม่ได้พูดอะไร]
พ: อานนท์ ตถาคตเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือว่า ความพลัดพรากจากของหรือคนรักเป็นเรื่องปกติ สิ่งใดเกิดแล้ว ปรุงแต่งแล้ว ย่อมสลายไปเป็นธรรมดา จะมาขอว่าอย่าดับไปเลยนั้น เป็นไปไม่ได้ และการที่จะให้ตถาคตกลับคำเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกก็เป็นไปไม่ได้
มาเถิดอานนท์ เราจะไปกูฏาคารศาลาที่ป่ามหาวันกัน
[เมื่อไปถึงแล้ว พระพุทธเจ้าได้พูดกับพระอานนท์ว่า]
พ: จงไปบอกภิกษุที่อยู่ในกรุงเวสาลีทั้งหมดให้มาประชุมกันที่นี่
______
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 13 (พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค ภาค 2 เล่ม 1 มหาปรินิพพานสูตรที่ 3 อานุภาพของอิทธิบาท 4-สังเวชนียกถา), 2559, น.265-282
0 comments: