กาลามสูตรไม่ได้สอนไม่ให้เชื่อตำรา
พระไตรปิฎกเล่ม ๒๐ ข้อ ๕๐๕ (ติกนิบาต อังคุตตรนิกาย) มีพระสูตรหนึ่งที่นิยมเรียกกันว่า “กาลามสูตร” ในกาลามาสูตรมีข้อความประโยคหนึ่งเป็นภาษาบาลีว่า “มา ปิฏกสมฺปทาเนน” (มา ปิฏะกะสัมปะทาเนนะ) แปลเป็นไทยว่า “อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา” และแปลเป็นอังกฤษว่า Be not led by the authority of texts. คนที่ฟังไม่ได้ศัพท์มักเอากาลามสูตรข้อนี้ไปพูดว่า “กาลามสูตรสอนไม่ให้เชื่อตำรา”
กาลามสูตรไม่ได้สอนไม่ให้เชื่อตำรา แต่สอนว่า-อย่าเชื่อโดยการอ้างตำรา หรือโดยการมอบความไว้วางใจให้แก่ตำรา
“เชื่อตำรา” กับ “เชื่อโดยการอ้างตำรา” มีความหมายต่างกัน
“เชื่อตำรา” ก็อย่างเช่น-เชื่อว่าตำราของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เชื่อถือได้ (ถ้าเป็นตำราของมหาวิทยาลัยแห่งอื่นอาจเชื่อถือไม่ได้) ตำราของอาจารย์คนนี้เชื่อถือได้ (ถ้าเป็นตำราของอาจารย์คนอื่นอาจเชื่อถือไม่ได้) - นี่คือ “เชื่อตำรา”
หรือ - ถ้าเป็นพระบาลีพระไตรปิฎกละก็เชื่อได้ แต่ถ้าเป็นอรรถกถาเชื่อไม่ได้ แบบนี้ก็ “เชื่อตำรา” อีกแบบหนึ่ง
ส่วน “เชื่อโดยการอ้างตำรา” หมายถึง ถ้าเรื่องนั้นๆ เป็นแต่เพียงมีคนพูดให้ฟังหรือบอกกันต่อๆ มา หรือแค่หนังสือพิมพ์ลงข่าวหรือวิทยุออกข่าว ก็จะไม่เชื่อหรอก แต่นี่มีเขียนไว้ในตำรา (จะเป็นตำราของสำนักไหนหรือใครเขียนก็ช่างเถิด) จึงต้องเชื่อ - นี่คือ “เชื่อโดยการอ้างตำรา” คือเชื่อโดยการมอบความไว้วางใจให้แก่ตำรา หรือเชื่อ “เพราะมันมีเขียนไว้ในตำรา”
กาลามาสูตรสอนไม่ให้เชื่อโดยการอ้างตำราแบบนี้ ทั้งนี้เพราะเรื่องที่เขียนไว้เป็นตำราไม่อาจรับประกันได้เสมอไปว่าถูกต้อง ตำราที่เขียนไว้ผิดๆ ก็มี
อนึ่ง พึงสังเกตว่า กาลามสูตรข้อนี้ท่านใช้คำว่า “ปิฎก” ซึ่งหมายถึงตำราหรือคัมภีร์ทั่วไป ไม่ใช่ “ไตรปิฎก” เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรเอาไปพูดเจาะจงว่า “กาลามสูตรสอนไม่ให้เชื่อพระไตรปิฎก”
การพูดเช่นนี้ผิดพลาดถึง ๒ ชั้น
(๑) “สอนไม่ให้เชื่อพระไตรปิฎก” ก็ผิดแล้ว
ท่านว่า “ปิฎก” เอาไปพูดเป็น “ไตรปิฎก”
(๒) ท่านว่า “สอนไม่ให้เชื่อโดยอ้างปิฎก”
เอาไปพูดเป็น “สอนไม่ให้เชื่อพระไตรปิฎก” ผิดความหมายและผิดความมุ่งหมาย กลายเป็นคนละเรื่องไป
ถ้าพูดว่า “สอนไม่ให้เชื่อโดยอ้างพระไตรปิฎก” ย่อมฟังได้ เพราะพระไตรปิฎกอยู่ในฐานะเป็น “ตำรา” ชนิดหนึ่งด้วยเช่นกัน หมายความว่า อย่าอ้างว่า “เพราะเรื่องนี้มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก จึงต้องเชื่อ”
ถ้าจะเชื่อ ต้องเชื่อเพราะได้พิจารณาด้วยสติปัญญาแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
ไม่ใช่เชื่อด้วยเหตุผลข้อเดียวเท่านั้น คือเชื่อเพราะเป็นเรื่องที่มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก
ถ้าเป็นเรื่องที่ได้พิจารณาด้วยสติปัญญาแล้วเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แม้ไม่ได้มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก ก็เชื่อได้ และโดยหลักการเดียวกัน ถ้าเป็นเรื่องที่ได้พิจารณาด้วยสติปัญญาแล้วเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แม้จะมีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก ก็ไม่ต้องเชื่อ
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
๑๖:๓๓
วิเคราะห์กาลามสูตร - Kalama sutta Analysis
0 comments: