สอนพระอานนท์เป็นครั้งสุดท้าย
[ณ ป่าสาลวัน ใกล้กรุงกุสินารา หลังจากพระอานนท์ถามพระพุทธเจ้าเรื่องวิธีปฏิบัติต่อสรีระของพระองค์แล้ว ก็เดินเข้าไปในวิหาร ลำดับนั้น พระพุทธเจ้าได้ถามภิกษุทั้งหลายว่า]
พ: อานนท์อยู่ไหน?
ภ: ท่านพระอานนท์ไปที่วิหาร ยืนเหนี่ยวสลักเพชร (ไม้ขัดกลอนประตู) ร้องไห้อยู่ว่า เรายังไม่บรรลุอรหันต์ ยังเป็นคนที่ต้องเรียนรู้ศึกษาอยู่ (เสขบุคคล) แต่ครูที่เมตตาอนุเคราะห์เราจะปรินิพพานเสียแล้ว
พ: เธอจงไปบอกอานนท์ตามคำของเราว่า ครูเรียกหา
[เมื่อพระอานนท์มาถึง พระพุทธเจ้าได้พูดกับพระอานนท์ว่า]
พ: อย่าเลยอานนท์ เธออย่าเศร้าโศกร่ำไรไปเลย เราได้บอกกับเธอไว้ก่อนแล้วตลอดมาไม่ใช่หรือว่า จะต้องมีการพลัดพรากจากทุกสิ่งที่เรารัก จะเป็นไปได้อย่างไรที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งเมื่อเกิดมาและก่อร่างขึ้นแล้ว จะไม่แตกดับไป เพราะนั่นเป็นเรื่องธรรมดา ความปรารถนาที่จะขอให้สิ่งนั้นไม่แตกดับไป เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
อานนท์ เธอดูแลตถาคตทั้งด้วยกาย วาจา และจิตใจอันมีเมตตามายาวนาน เธอได้ทำบุญไว้ดีแล้ว จงเพียรพยายามต่อไปเถิด แล้วเธอจะเป็นผู้หมดกิเลสได้ในไม่ช้า
_______
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 13 (พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค ภาค 2 เล่ม 1 มหาปรินิพพานสูตรที่ 3 ประทานโอวาทแก่พระอานนท์), 2559, น.303-304
ภาพวาดพุทธประวัติ , แก้ปัญหาภิกษุโกสัมพีทะเลาะกัน (ตอนที่ 1), (ตอนที่ 2), (ตอนที่ 3), (ตอนที่ 4), (ตอนที่ 5), (ตอนจบ), "คว่ำบาตร" มีที่มาอย่างไร, เรื่องไม้ชำระฟัน , โอวาทปาติโมกข์ , แว่นธรรม-แว่นมองอนาคตตัวเอง, ภพใหม่ไม่มีอีกแล้ว , วิหารทาน เป็นทานอันเลิศ ที่พระบรมศาสดาทรงสรรเสริญ , แผ่เมตตาแก่ช้างนาฬาคิรี , ให้มีสติสัมปชัญญะ ระลึกรู้ตัวอยู่ทุกขณะ , จงมีธรรมและตนเองเป็นเกาะ เป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเลย , พระพุทธเจ้าปลงสังขาร , ปัจฉิมโอวาท , ธรรมที่พระพุทธเจ้าย้ำก่อนปรินิพพาน , เมื่อได้ยินอะไรมาให้ตรวจสอบเทียบเคียงกับพระสูตรและพระวินัย , อาหารมื้อสุดท้ายของพระพุทธเจ้า, คืนสุดท้ายของพระพุทธเจ้า , บิณฑบาตที่มีอานิสงส์ใหญ่ 2 คราว , ใครที่ได้มาสังเวชนียสถานด้วยจิตเลื่อมใส เมื่อตายไปจะเข้าถึงสุคติ , วิธีปฏิบัติต่อสตรีและพระพุทธสรีระ
0 comments: