คุณสมบัติของอุบาสก (รวมทั้งอุบาสิกาด้วย)
มีพระบาลีว่า “อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ” แปลความว่า “ขอท่านพระโคดมผู้เจริญจงทรงจำข้าพระองค์อย่างนี้ว่า ผู้นี้เป็นอุบาสก”
เพื่อความเป็นผู้ฉลาดในเรื่องของอุบาสก (อุบาสิกา) พึงทราบข้อเบ็ดเตล็ดในที่นี้ดังนี้ว่า
๑. อุบาสกคือใคร ? ๒. เหตุไรจึงเรียกอุบาสก ? ๓. อุบาสกมีศีลเท่าไร ? ๔. อุบาสกมีอาชีวะอย่างไร ? ๕. อุบาสกมีวิบัติอย่างไร ? ๖. อุบาสกมีสมบัติอย่างไร ?
อธิบายในบทเหล่านั้น
๑. อุบาสกคือใคร ? ท่านตอบไว้ว่า “อุบาสกก็ได้แก่คฤหัสถ์บางคนที่ถึงสรณะสาม” สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า “ดูก่อนมหานามะ บุคคลเป็นอุบาสกด้วยเหตุใดแล บุคคลเป็นผู้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ถึงพระธรรมเป็นสรณะ ถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ. ดูก่อนมหานามะ บุคคลย่อมเป็นอุบาสกด้วยเหตุเพียงนี้แล”
๒. เหตุไรจึงเรียกอุบาสก ? ท่านตอบไว้ว่า “เรียกว่าอุบาสก เพราะนั่งใกล้พระรัตนตรัย คือเรียกเขาว่า อุบาสก เพราะนั่งใกล้พระพุทธเจ้า เรียกว่าอุบาสก เพราะนั่งใกล้พระธรรม และพระสงฆ์”
๓. อุบาสกมีศีลเท่าไร ? ท่านตอบไว้ว่า “มีเจตนาเครื่องงดเว้นบาป ๕ ข้อ” สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า “ดูก่อนมหานามะ ด้วยเหตุใดแล อุบาสกเป็นผู้งดเว้นจากปาณาติบาต เป็นผู้งดเว้นจากอทินนาทาน จากกาเมสุมิจฉาจาร จากมุสาวาท จากการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท. ดูก่อนมหานามะ อุบาสกย่อมมีศีลด้วยเหตุเพียงนี้แล”
๔. อุบาสกมีอาชีวะอย่างไร ? ท่านตอบไว้ว่า “ละเว้นการค้าขายที่ผิด ๕ อย่าง เลี้ยงชีพโดยธรรมโดยเหมาะสม” สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การค้าขาย ๕ อย่าง อุบาสกไม่พึงกระทำ ๕ อย่างอะไรบ้าง คือขายศัสตราวุธ ขายสัตว์ (ค้าขายมนุษย์) ขายเนื้อ (ค้าขายสัตว์เป็นที่ยังมีชีวิตเพื่อฆ่าเป็นอาหาร เป็นส่งเสริมทารุณกรรมและส่งเสริมการทำผิดศีลข้อที่ ๑) ขายน้ำเมา ขายยาพิษ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การค้าขาย ๕ อย่างเหล่านี้แล อุบาสกไม่พึงกระทำ”
๕. อุบาสกมีวิบัติอย่างไร ? ท่านตอบไว้ว่า “ศีลวิบัติและอาชีววิบัตินั้นแหละเป็นวิบัติของอุบาสก”
และวิบัติของอุบาสกอีกอย่างหนี่ง คือกิริยาที่เป็นเหตุให้อุบาสกนี้เป็นผู้ต่ำช้ามัวหมองและเลวทราม กิริยาที่ว่านั้น โดยความก็คือธรรม ๕ ประการมีความเป็นผู้ไม่มีศรัทธาเป็นต้น สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกประกอบด้วยธรรม ๕ ประการย่อมเป็นอุบาสกต่ำช้า เป็นอุบาสกมัวหมอง เป็นอุบาสกเลวทราม ธรรม ๕ ประการอะไรบ้าง คือเป็นผู้ไม่มีศรัทธา ๑ ทุศีล ๑ ถือมงคลตื่นข่าว คิดเชื่อมงคล ไม่เชื่อกรรม ๑ แสวงหาเขตบุญนอกพุทธศาสนา ๑ ไม่บำเพ็ญบุญแต่ในพุทธศาสนา ๑ ดังนี้”
๖. อุบาสกมีสมบัติอย่างไร ? ท่านตอบไว้ว่า “ศีลสมบัติและอาชีวสมบัตินั่นแหละ เป็นสมบัติของอุบาสก ธรรม ๕ ประการมีศรัทธาเป็นต้น ทำอุบาสกนั้นให้เป็นอุบาสกแก้วเป็นต้น” สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกประกอบด้วยธรรม ๕ ประการย่อมเป็นอุบาสกแก้ว อุบาสกปทุมและอุบาสกบุณฑริก ธรรม ๕ ประการอะไรบ้าง คือเป็นผู้มีศรัทธา ๑ มีศีลบริสุทธิ์ ๑ ไม่ถือมงคลตื่นข่าว คือเชื่อกรรม ไม่เชื่อมงคล ๑ ไม่แสวงหาเขตบุญนอกพุทธศาสนา ๑ บำเพ็ญบุญแต่ในพุทธศาสนา ๑ ดังนี้”
อนึ่ง อุบาสกอุบาสิกานั้น เมื่อเข้าถึงพระรัตนตรัยแล้ว ก็เข้าถึงด้วยลมปราณทั้งหลาย คือเข้าถึงชั่วเวลาที่ชีวิตยังเป็นไปอยู่ ดังคำว่า “ขอท่านพระโคดมผู้เจริญจงทรงจำ คือทรงทราบข้าพระองค์ว่าไม่มีศาสดาอื่น เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะด้วยไตรสรณคมน์ เป็นกัปปิยการก ถ้าแม้จะมีใครเอาดาบคมกริบมาตัดศีรษะของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ก็จะไม่ยอมกล่าวพระพุทธเจ้าว่าไม่ใช่พระพุทธเจ้า พระธรรมว่าไม่ใช่พระธรรม หรือพระสงฆ์ว่าไม่ใช่พระสงฆ์ ดังนี้”
นี้แหละคุณสมบัติของอุบาสกอุบาสิกาและการเข้าถึงสรณะด้วยการมอบถวายตนอย่างนี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
สาระธรรมจากอรรถกถา อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาต ปฐมปัณณาสก์ (อธิกรณวรรคที่ ๒)
พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ)
27/11/64
0 comments: