วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ขราทิยชาตกํ - ว่าด้วยผู้ล่วงเลยโอวาท

ขราทิยชาตกํ - ว่าด้วยผู้ล่วงเลยโอวาท

"อฏฺฐกฺขุรํ  ขราทิเย,   มิคํ  วงฺกาติวงฺกินํ;

สตฺตหิ  กาลาติกฺกนฺตํ [1],    น  นํ  โอวทิตุสฺสเหติ ฯ

ดูกรนางเนื้อขราทิยา ฉันไม่สามารถจะสั่งสอนเนื้อตัวนั้น ผู้มี ๘ กีบ  มีเขาคดแต่โคนจนถึงปลายเขา ล่วงเลยโอวาทเสียตั้ง ๗ วัน".

1) [สตฺตหิ กลาห’ติกฺกนฺตํ (สี.), สตฺตกาเลห’ติกฺกนฺตํ (สฺยา.), สตฺตหิ กาลาห’ติกฺกนฺตํ (ปี.)],

ขราทิยชาดกอรรถกถา

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ที่พระวิหารเชตวันทรงปรารภภิกษุว่า ยากรูปหนึ่ง จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า  อฏฺฐขุรํ  ขราทิเย  ดังนี้.

ได้ยินว่า ภิกษุนั้นว่ายากไม่รับโอวาท ลำดับนั้น พระศาสดาได้ตรัสถามภิกษุนั้นว่า „ดูก่อนภิกษุ ได้ยินว่า เธอว่า ยากไม่รับโอวาทจริงหรือ ?“.

 ภิกษุนั้นกราบทูลว่า „ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า จริง พระเจ้าข้า“.

พระศาสดาตรัสว่า „แม้ในกาลก่อนเธอก็ไม่รับ โอวาทของบัณฑิตทั้งหลาย เพราะความเป็นผู้ว่า ยากจึงติดบ่วงถึงความสิ้นชีวิต“, แล้วทรงนำอดีตนิทานมาว่า :- 

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในพระนครพาราณสี  พระโพธิสัตว์เป็นมฤคแวดล้อมด้วยหมู่เนื้ออยู่ในป่า. 

ลำดับนั้น เนื้อผู้เป็นน้องสาวมฤคนั้นแสดงบุตรน้อยแล้วให้รับเอาด้วยคำพูดว่า „ข้าแต่พี่ชายนี้เป็นหลานของพี่ พี่จงให้เรียนมายาเนื้ออย่างหนึ่ง“. 

มฤคนั้นกล่าวกะหลานนั้นว่า „ในเวลาชื่อโน้น เจ้าจงมาเรียนเอา“ เนื้อผู้หลานไม่มาตามเวลาที่พูดไว้เมื่อล่วงไป ๗ วัน เหมือนดังวันเดียว.   เนื้อผู้เป็นหลานนั้นไม่ได้เรียนมายาของเนื้อท่องเที่ยวไป จึงติดบ่วง. 

ฝ่ายมารดาของเนื้อนั้น เข้าไปหามฤคผู้พี่ชายแล้วถามว่า „ข้าแต่พี่ พี่ไห้หลานเรียนมายาของเนื้อแล้วหรือ ?“. 

พระโพธิสัตว์กล่าวว่า „เจ้าอย่าคิดเสียใจต่อบุตรผู้ไม่รับโอวาทสั่งสอนนั้นเลย, บุตรของเจ้าไม่เรียนเอามายาของเนื้อเอง“ ดังนี้ เป็นผู้ไม่มีความประสงค์จะโอวาทเนื้อนั้นเลย ในบัดนี้ จึงกล่าวคาถานี้ว่า :- 

„ดูก่อนนางเนื้อขราทิยา ฉันไม่สามารถจะสั่งสอน เนื้อตัวนั้น ผู้มี ๘ กีบ มีเขาคดแค่โคนเขาจนถึงปลาย เขาผู้ล่วงเลยโอวาทเสียตั้ง ๗ วันได้“. 

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า  อฏฺฐขุรํ  ได้แก่ มีกีบ ๘ กีบ โดยเท้าข้างหนึ่งๆ มี ๒ กีบ พระโพธิสัตว์เรียกนางเนื้อนั้นโดยชื่อว่าขราทิยา.   บทว่า  มิคํ  เป็นคำรวมถือเอาเนื้อทุกชนิด.   บทว่า  วงฺกาติวงฺกินํ  ได้แก่ คดยิ่งกว่าคด คือ คดตั้งแต่ที่โคนเขา คดมากขึ้นไปถึงปลายเขาชื่อว่าผู้มีเขาคดแต่โคนจนถึงปลายเขา เพราะเนื้อนั้นมีเขาเป็นเช่นนั้น. จึงชื่อว่าเขาคดแต่โคนจนถึงปลายเขา คือ มีเขาคดแต่โคนเขา จนถึงปลายเขานั้น. 

บทว่า  สตฺตกาเลหติกฺกนฺตํ  ได้แก่ ผู้ล่วงเลยโอวาท โดยเวลาเป็นที่ให้โอวาท ๗ วัน. ด้วยบทว่า น นํ โอวทิตุสฺสเห นี้ท่านแสดงว่า เราไม่อาจให้โอวาทเนื้อผู้ว่า ยากนี้แม้ความคิดเพื่อจะโอวาทเนื้อนี้ ก็ไม่เกิดขึ้นแก่เรา. 

ครั้งนั้น นายพรานฆ่าเนื้อที่ว่า ยากตัวนั้นซึ่งติดบ่วง ถือเอาแต่เนื้อแล้วหลีกไป. 

ฝ่ายพระศาสดา ตรัสว่า „ดูก่อนภิกษุ เธอเป็นผู้ว่า ยากแต่ในบัดนี้ เท่านั้นก็หามิได้ แม้ในกาลก่อนก็เป็นผู้ว่ายากเหมือนกัน“, 

ครั้นทรงนำพระเทศนานี้มาสืบต่ออนุสนธิกันแล้วทรงประชุมชาดกว่า „เนื้อผู้เป็นหลานในกาลนั้นได้เป็นภิกษุผู้ว่า ยากในบัดนี้, แม่เนื้อผู้เป็นน้องสาวในกาลนั้นได้เป็นพระอุบลวรรณา ในบัดนี้, ส่วนเนื้อผู้ให้โอวาทในกาลนั้นได้เป็นเราตถาคตแล“.

Credit: Palipage : Guide to Language - Pali

22. กุกฺกุรชาตกํ - ว่าด้วยสุนัขที่ถูกฆ่า , 21.  กุรุงฺคมิคชาตกํ - ว่าด้วยกวางกุรุงคะ , 20.  นฬปานชาตกํ  -  เหตุที่ไม้อ้อเป็นรูทะลุตลอด ,  19. อายาจิตภตฺตชาตกํ - ว่าด้วยการเปลื้องตน , 18.  มตกภตฺตชาตกํ - ว่าด้วยสัตว์ไม่ควรฆ่าสัตว์ , 17. มาลุตชาตกํ - ว่าด้วยความหนาวเกิดแต่ลม , 16. ติปลฺลตฺถมิคชาตกํ - ว่าด้วยเล่ห์กลลวงพราน , 15. ขราทิยชาตกํ - ว่าด้วยผู้ล่วงเลยโอวาท , 14.  วาตมิคชาตกํ - ว่าด้วยอำนาจของรส , 13. กณฺฑินชาตกํ - ว่าด้วยผู้ตกอยู่ในอำนาจหญิง , 12. นิคฺโรธมิคชาตกํ - ว่าด้วยการเลือกคบ , 11.  ลกฺขณมิคชาตกํ - ว่าด้วยผู้มีศีล , 10. สุขวิหาริชาตกํ - ว่าด้วยการอยู่เป็นสุข , 09. มฆเทวชาตกํ - ว่าด้วยเทวทูต , 08. คามณิชาตกํ  - ว่าด้วยไม่ใจเร็วด่วนได้ , 07. กฏฺฐหาริชาตกํ - ว่าด้วยพระเจ้ากัฏฐวาหนะ ,  06. เทวธมฺมชาตกํ  -  ว่าด้วยธรรมของเทวดา , 05. ตณฺฑุลนาฬิชาตกํ - ว่าด้วยราคาข้าวสาร,  04. จูฬเสฏฺฐิชาตกํ - ว่าด้วยคนฉลาดตั้งตนได้ , 03. เสริววาณิชชาตกํ - ว่าด้วยเสรีววาณิช , 02. วณฺณุปถชาตกํ - ว่าด้วยผู้ไม่เกียจคร้าน , 01. อปณฺณกชาตกํ - ว่าด้วยการรู้ฐานะและมิใช่ฐานะ 






Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: