ธรรมสังเวช
[ณ ป่าสาลวัน ใกล้กรุงกุสินารา ขณะที่พระอุปวาณะกำลังยืนพัดให้พระพุทธเจ้าอยู่ตรงหน้า พระพุทธเจ้าได้พูดกับพระอุปวาณะว่า]
พ: ภิกษุ เธอจงหลีกไป อย่ายืนตรงหน้าเรา
[พระอานนท์ได้ยินเข้าจึงถามพระพุทธเจ้าว่า]
อ: พระอุปวาณะเป็นอุปัฏฐาก (ผู้อุปถัมภ์ดูแล) ใกล้ชิดท่านมานาน นี่ก็เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะเหตุใดท่านจึงให้พระอุปวาณะหลีกออกไป?
พ: อานนท์ เทวดามากมายในหมื่นโลกธาตุได้มาที่นี่เพื่อจะเห็นตถาคต ตลอดรอบพื้นที่กรุงกุสินาราขนาด 12 โยชน์ (1 โยชน์ = 16 กิโลเมตร) ต่างมีเทวดาเบียดกันอยู่จนหาที่ว่างแม้จะแทรกปลายขนเนื้อทรายไม่ได้เลย
พวกเทวดาก็จะโทษได้ว่า เรามาแต่ไกลเพื่อจะได้เห็นพระตถาคตที่อุบัติขึ้นในโลกเพียงครั้งคราวปรินิพพานในปัจฉิมยามของคืนนี้ (ตีสองถึงหกโมงเช้า) แต่ภิกษุรูปนี้กลับมายืนบัง ทำให้ไม่ได้เห็นพระตถาคตเป็นครั้งสุดท้าย
อ: ตอนนี้เหล่าเทวดาคิดอย่างไรกัน?
พ: มีเทวดาบางพวกสยายผมยกแขนทั้งสองคร่ำครวญ ล้มลงกลิ้งเกลือกไปมาเหมือนเท้าขาด รำพันว่า พระพุทธเจ้าปรินิพพานเร็วเกินไป
แต่เทวดาที่ไม่มีราคะแล้ว มีสติสัมปชัญญะอยู่ ก็อดกลั้นได้โดยธรรมสังเวช (ความรู้สึกเตือนใจให้ระลึกถึงธรรม) ว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง จะหาความเที่ยงในสังขารได้ที่ไหนเล่า
_____
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 13 (พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค ภาค 2 เล่ม 1 มหาปรินิพพานสูตรที่ 3 เรื่องอุปวาณเถระ), 2559, น. 299-300
ภพใหม่ไม่มีอีกแล้ว , วิหารทาน เป็นทานอันเลิศ ที่พระบรมศาสดาทรงสรรเสริญ , แผ่เมตตาแก่ช้างนาฬาคิรี , ให้มีสติสัมปชัญญะ ระลึกรู้ตัวอยู่ทุกขณะ , จงมีธรรมและตนเองเป็นเกาะ เป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเลย , พระพุทธเจ้าปลงสังขาร , ปัจฉิมโอวาท , ธรรมที่พระพุทธเจ้าย้ำก่อนปรินิพพาน , เมื่อได้ยินอะไรมาให้ตรวจสอบเทียบเคียงกับพระสูตรและพระวินัย , อาหารมื้อสุดท้ายของพระพุทธเจ้า, คืนสุดท้ายของพระพุทธเจ้า , บิณฑบาตที่มีอานิสงส์ใหญ่ 2 คราว , ใครที่ได้มาสังเวชนียสถานด้วยจิตเลื่อมใส เมื่อตายไปจะเข้าถึงสุคติ , วิธีปฏิบัติต่อสตรีและพระพุทธสรีระ , สอนพระอานนท์เป็นครั้งสุดท้าย , ชื่นชมพระอานนท์ , ควรเปิดใจรับฟังคำว่ากล่าวตักเตือนได้ , ยังไม่มีผู้ที่สงบจากบาปกิเลสได้ด้วยหลักคำสอนอื่นนอกพุทธศาสนานี้
"วัดพิพัฒน์มงคล" จังหวัดสุโขทัย
วัดพิพัฒน์มงคล ตั้งอยู่ที่ อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ห่างจากที่ว่าการอำเภอทุ่งเสลี่ยม ประมาณ 3 กิโลเมตร วัดโบราณสวยแปลกตา อายุกว่า 700 ปี เป็นวัดที่มีความสำคัญวัดหนึ่งของจังหวัดสุโขทัย
0 comments: