ชีวิตนี้ มีความพลัดพรากเป็นที่สุด สิ่งทั้งหลายมีความแตกดับไปสลายไป เป็นธรรมดา
พระพุทธองค์ตรัสกับพระอานนท์ ว่า “ อานนท์ ! ตถาคตได้บอกแล้วมิใช่หรือว่า สัตว์จะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น, สัตว์จะได้ตามปรารถนาในสังขารนี้แต่ที่ไหนเล่า, ข้อที่สัตว์จะหวังเอาสิ่งที่เกิดแล้ว เป็นแล้ว มีปัจจัยปรุงแต่งแล้ว มีการแตกดับเป็นธรรมดา ว่า สิ่งนี้อย่าฉิบหายเลย ดังนี้ ย่อมไม่เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้
อานนท์เอ๋ย! ชีวิตนี้มีความพลัดพรากเป็นที่สุด สิ่งทั้งหลายมีความแตกดับไปสลายไปเป็นธรรมดา จะปรารถนามิให้เป็นอย่างที่มันควรจะเป็นนั้น เป็นฐานะที่ไม่พึงหวังได้ ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไป เคลื่อนไป สู่จุดสลายตัวทุกขณะ ”
พระบาลีไตรปิฎก, มหา. ที. ๑๐/๑๓๔/๑๐๒
“ถ้าจะเศร้าโศกถึงคนที่ไม่มีอยู่แก่ตน คือคนที่ตายไปแล้ว ก็ควรจะเศร้าโศกถึงตนเอง ซึ่งตกอยู่ในอำนาจของพญามัจจุราชตลอดเวลา ด้วย.
อายุ สังขาร ใช่จะประมาทไปตามสัตว์ ผู้ยืน นั่ง นอน หรือ เดินอยู่ ก็หาไม่
วัยย่อมเสื่อมลงเรื่อยไป ทุกหลับตา ทุกลืมตา เมื่อวัยเสื่อมสิ้นไปอย่างนี้ ความพลัดพรากจากกันก็ต้องมี โดยไม่ต้องสงสัย”
พระบาลีไตรปิฎก, ขุ. ชา. ๒๗/๖๑๑-๓/๑๔๖-๗
ท. ส. ปัญญาวุฑโฒ - รวบรวม
อ่านบทความเกี่ยวข้องเพิ่มเติม👇
เราต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักทั้งสิ้น ไม่มีทางหนีพ้น , พระปฏาจาราเถรี "เราต้องพลัดพรากจากคนที่รักเป็นธรรมดา ไม่มีใครสามารถล่วงพ้นไปได้" , พระปฏาจาราเถรี หญิงเสียสติผู้บรรลุพระอรหันต์
0 comments: