เกิดมาหน้าตาไม่ดีเพราะชาติที่แล้วโกรธง่ายคิดแค้นขี้อิจฉา
[ณ เชตวัน นครสาวัตถี พระนางมัลลิกาเทวีได้ถามพระพุทธเจ้าว่า]
ม: ภันเต อะไรเป็นเหตุให้หญิงบางคนมีผิวพรรณแย่ หน้าตาไม่สวย ทั้งยากจนและเกิดมาในที่ที่ไม่ดี บางคนมีผิวพรรณแย่ หน้าตาไม่สวย แต่ร่ำรวยและเกิดมาในที่ที่ดี บางคนมีผิวพรรณดี หน้าตาสวย แต่ยากจนและเกิดมาในที่ที่ไม่ดี บางคนมีผิวพรรณดี หน้าตาสวย ทั้งร่ำรวยและเกิดมาในที่ที่ดี
พ: มัลลิกา หญิงบางคนโกรธง่าย ในใจมีแต่ความคับแค้น ถูกว่านิดหน่อยก็ฉุนเฉียวกระฟัดกระเฟียด ไม่ให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ มีใจอิจฉาริษยา กีดกันผู้อื่น ถ้าหญิงนั้นตายไปแล้วกลับมาเกิดในชาติใดๆ ย่อมเป็นผู้มีผิวพรรณแย่ หน้าตาไม่สวย ทั้งยากจนและเกิดมาในที่ที่ไม่ดี
หญิงบางคนโกรธง่าย ในใจมีแต่ความคับแค้น ถูกว่านิดหน่อยก็ฉุนเฉียวกระฟัดกระเฟียด แต่มักให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ ไม่อิจฉาริษยา ไม่กีดกันผู้อื่น ถ้าหญิงนั้นตายไปแล้วกลับมาเกิดในชาติใดๆ ย่อมเป็นผู้มีผิวพรรณแย่ หน้าตาไม่สวย แต่ร่ำรวยและเกิดมาในที่ที่ดี
หญิงบางคนไม่ค่อยโกรธ ใจไม่คับแค้น ถูกว่ามากๆก็ไม่ฉุนเฉียวกระฟัดกระเฟียด แต่ไม่ให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ มีใจอิจฉาริษยา กีดกันผู้อื่น ถ้าหญิงนั้นตายไปแล้วกลับมาเกิดในชาติใดๆ ย่อมเป็นผู้มีผิวพรรณดี หน้าตาสวย แต่ยากจนและเกิดมาในที่ที่ไม่ดี
หญิงบางคนไม่ค่อยโกรธ ใจไม่คับแค้น ถูกว่ามากๆก็ไม่ฉุนเฉียวกระฟัดกระเฟียด มักให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ และไม่อิจฉาริษยา ไม่กีดกันผู้อื่น ถ้าหญิงนั้นตายไปแล้วกลับมาเกิดในชาติใดๆ ย่อมเป็นผู้มีผิวพรรณดี หน้าตาสวย ทั้งร่ำรวยและเกิดมาในที่ที่ดี มัลลิกา เหล่านี้แลเป็นเหตุปัจจัย.
ม: ภันเต ในชาติอื่น ดิฉันคงเป็นคนโกรธง่าย ในใจมีแต่ความคับแค้น ถูกว่านิดหน่อยก็ฉุนเฉียวกระฟัดกระเฟียด มาชาตินี้เลยเป็นคนผิวพรรณแย่ หน้าตาไม่สวย ไม่น่าดู แต่ในชาตินั้น ดิฉันคงมักให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ มาชาตินี้เลยเป็นคนร่ำรวย และไม่มีใจอิจฉาริษยา ไม่กีดกันผู้อื่นในชาตินั้น มาชาตินี้เลยได้เกิดมาในที่ที่ดี ภันเต ตั้งแต่วันนี้ไป ดิฉันจะไม่โกรธ ไม่ทำใจคับแค้น ถูกว่ามากๆก็จะไม่ฉุนเฉียวกระฟัดกระเฟียด จะให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ และจะไม่อิจฉาริษยา ไม่กีดกันผู้อื่น
คำสอนของท่านแจ่มแจ้งมาก เหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องแสงในที่มืด ดิฉันขอระลึกถึงท่าน คำสอนของท่าน และพระสงฆ์ที่ปฏิบัติตามคำสอนของท่าน ขอท่านโปรดจำดิฉันว่า เป็นอุบาสิกาผู้ถึงสรณะตลอดชีวิตจากวันนี้เป็นต้นไป
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 35 (พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ภาค 2 มหาวรรค มัลลิกาเทวีสูตร ข้อ 197), 2559, น.526-530
0 comments: