“เราเป็นเพียงผู้บอกทาง”
[ณ วิหารบุพพาราม กรุงสาวัตถี พราหมณ์ชื่อคณกโมคคัลลานะได้เข้าพบพระพุทธเจ้า]
ค. ท่านพระโคดม สาวกที่ท่านสอนนี้ต่างบรรลุนิพพาน (การดับกิเลสและพ้นทุกข์) กันทุกรูปหรือไม่. พ. บางพวกบรรลุ บางพวกก็ไม่
ค. เป็นเพราะเหตุใด ในเมื่อนิพพานก็มีจริง มีทางไปสู่นิพพานจริง แล้วยังมีพระพุทธเจ้าเป็นผู้สั่งสอนให้ไปสู่นิพพานนั้นด้วยตัวเองอีก. พ. ขอถามกลับว่า ท่านเป็นผู้ชำนาญทางไปกรุงราชคฤห์ใช่ไหม.
ค. ใช่ ท่านพระโคดม. พ. คนที่อยากไปกรุงราชคฤห์ ต่างมาหาท่านให้ช่วยชี้ทาง ท่านก็บอกเขาให้ไปตามทางนั้นครู่หนึ่งแล้วจะเห็นหมู่บ้านนี้ ไปทางนี้ครู่หนึ่งแล้วจะเห็นเมืองนั้น และไปทางโน้นอีกครู่หนึ่งก็จะเห็นกรุงราชคฤห์ แต่ปรากฏว่าคนที่ท่านพร่ำบอกอยู่อย่างนี้ คนหนึ่งกลับเดินผิดทางไปตรงกันข้าม ในขณะที่อีกคนกลับไปถึงโดยสวัสดิภาพ นี่เป็นเพราะอะไร ?
ค. ในเรื่องนี้ข้าจะทำอะไรได้ ข้าเป็นแต่เพียงผู้บอกทาง. พ. ฉันใดฉันนั้น เราก็เป็นเพียงผู้บอกทางเช่นกัน
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 22 (พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ ภาค 3 เล่ม 1 คณกโมคคัลลานสูตร), 2559, น.140-142
0 comments: