บทความชุด : ถ้าจะรักษาพระศาสนา จงรักษาวิถีชีวิตสงฆ์
-๓- ผลจากการไม่ศึกษาพระธรรมวินัย
ขออภัยที่จะต้องกล่าวตามตรงว่า ทุกวันนี้พระภิกษุสามเณรที่ไม่รู้พระธรรมวินัยมีมากขึ้น ที่รู้ แต่ไม่ประพฤติปฏิบัติตาม-กล่าวคือไม่ดำรงชีวิตตามวิถีชีวิตสงฆ์ หากแต่ยกเหตุผลความจำเป็นนั่นนี่โน่นขึ้นมาอ้าง-ก็มีมากขึ้น สามารถเห็นได้ทั่วไปจนดูเป็นเรื่องปกติ จนในที่สุดจะกลายเป็นว่าไม่มีใครรู้จักวิถีชีวิตที่แท้จริงของสงฆ์-ตามพระธรรมวินัย ยกตัวอย่างในบางเรื่อง เช่น-การออกบิณฑบาต ปัจจุบันพระภิกษุสามเณรส่วนหนึ่ง-ซึ่งจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ-ไม่ต้องออกบิณฑบาตก็มีอาหารฉัน
การไม่ออกบิณฑบาตกลายเป็นชีวิตปกติ การออกบิณฑบาตเสียอีกกลายเป็นชีวิตที่ผิดปกติ หรือบางทีกลายเป็นเรื่องตื่นเต้น เห็นเป็นความพิเศษ เอาไปยกย่องชื่นชม ทั้งๆ ที่เป็นกิจที่พระเณรต้องทำเป็นปกติแท้ๆ เพราะไม่ศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจถ่องแท้ เวลานี้ก็เริ่มมีกระแสความคิดว่า สังคมเปลี่ยนไป วิถีชีวิตสงฆ์จำเป็นต้องเปลี่ยน จะให้ทำอะไรเหมือนสมัยพุทธกาลทุกอย่างไม่ได้อีกแล้ว
ความจริงก็คือ-ไม่มีใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เราบอกกันแต่ว่าเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องไม่ทำลายหลักการ ถ้าพระเณรเห็นว่าทุกมื้อซื้อฉันสะดวกกว่า จะเกิดอะไรขึ้น พระเณรก็จะไม่เห็นความสำคัญของการศึกษาพระธรรมวินัย-อย่างน้อยที่สุดก็ในเรื่องธรรมเนียมหรือกิจวัตรในการบิณฑบาต เพราะเมื่อไม่ออกบิณฑบาตก็ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้กิริยามารยาทและวัฒนธรรมในการบิณฑบาต
ต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องมีบาตร ต่อไปอีก บาตรอันเป็น ๑ ในอัฐบริขารที่ต้องมีครบในเวลาอุปสมบทก็จะมีไว้พอเป็นพิธี แทนที่จะสนใจเรื่องการบิณฑบาต พระเณรก็จะสนใจแต่ว่า-จะได้เงินจากไหนมาซื้ออาหารประจำวัน จากวิธีดำรงชีพด้วยการแสวงหาอาหารจากชาวบ้าน เปลี่ยนไปเป็นแสวงหาเงินเพื่อเป็นค่าอาหาร
ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา = ชีวิตนักบวชอาศัยโภชนะที่ได้มาด้วยปลีแข้ง-หลักการพื้นฐานของวิถีชีวิตสงฆ์ก็ถูกทำลาย
ที่ร้ายกว่านั้นก็คือเดี๋ยวนี่เกิดวิธีบิณฑบาตแปลกๆ เช่น - ยืนบิณฑบาต และเวลานี้ก้าวหน้าเป็นนั่งบิณฑบาตด้วยแล้ว บิณฑบาตหมุนเวียน สมประโยชน์กับแม่ค้า บิณฑบาตเอาไปขาย เอาไปเลี้ยงครอบครัว ที่ขึ้นหน้าขึ้นตาก็คือบิณฑบาตเงิน นี่เป็นจุดเล็กๆ จุดเดียวที่สามารถทำลายพระศาสนาได้อย่างคาดไม่ถึง เพราะความไม่รู้ ชาวบ้านก็ตกเป็นเหยื่อ-ด้วยการสนับสนุนพระเณรที่กระทำเช่นนั้น ทางแก้ก็คือต้องจัดการศึกษาพระธรรมวินัย-จัดอย่างเป็นการฝึกศึกษาจริงๆ เรียนรู้แล้วปฏิบัติในชีวิตจริง เป็นการศึกษาเพื่อการปฏิบัติที่ถูกต้อง ไม่ใช่การศึกษาเพื่อสอบได้-อย่างที่เรากำลังหลงทางกันจนกู่ไม่กลับอยู่ในเวลานี้ จะจัดการศึกษาเพื่อสอบได้ เพื่อสถิติ เพื่อวุฒิ เพื่อปริญญาอะไรก็ตาม-แบบที่ชาวโลกเขาจัดกัน-ก็ยังต้องจัดไปถ้าเห็นว่าจำเป็นต้องจัด แต่การศึกษาเพื่อให้มีความรู้ที่ถูกต้องแล้วเอาความรู้ไปเป็นพื้นฐานแห่งการประพฤติปฏิบัติ เพื่อการดำรงวิถีชีวิตสงฆ์ จะต้องจัดให้มีขึ้นในชีวิตจริง
ไม่ว่าจะสอบได้กี่ประโยค ไม่ว่าจะสอบผ่านปริญญากี่ดีกรี กี่ใบ ไม่ว่าจะบรรยายพระธรรมจำพระวินัยได้แม่นยำขนาดไหน พูดคล่องขนาดไหน ถ้าไม่ได้อัญเชิญพระธรรมวินัยมาปฏิบัติจริงในชีวิตจริง-ในชีวิตประจำวัน ไม่ได้ดำรงชีวิตตามแบบแผนตามวิถีชีวิตสงฆ์ที่ถูกต้อง ก็ต้องถือว่า-ยังเป็นผู้ที่ไม่ได้รับการศึกษาแต่ประการใดๆ ทั้งสิ้น กิจเช่นนี้ควรเป็นหน้าที่ของคณะสงฆ์ที่จะต้องจัดต้องทำต้องดำเนินการกับพระภิกษุสามเณรผู้เป็นสมาชิกขององค์กร แล้วเผยแผ่ให้แพร่หลายออกไปสู่ประชาชน ให้ชาวบ้านรู้พระธรรมวินัยไปพร้อมๆ กับชาววัด
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย , ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔ , ๑๐:๕๔
"ถ้าจะรักษาพระศาสนา จงรักษาวิถีชีวิตสงฆ์" (ตอนที่1) , (ตอนที่2) , (ตอนที่3) , (ตอนที่4)
ที่มา : ทองย้อย แสงสินชัย
บทความชุด...
Posted by ทองย้อย แสงสินชัย on Sunday, May 9, 2021
0 comments: