วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

มงคลที่ ๑๒ ปุตฺตสงฺโห เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ - การสงเคราะห์บุตรธิดา เป็นอุดมมงคล

มงคลที่ ๑๒ การสงเคราะห์บุตร - ปุตตะ สังคะโห

๏ เป็นมารดา บิดา ทำหน้าที่ ให้บุตรมี พำนัก เป็นหลักแหล่ง ส่งเสริมบุตร ธิดาตน กุศลแรง ย่อมส่องแสง เพิ่มพูน ตระกูลวงศ์ ๛

คำว่าบุตรนั้น มีอยู่ ๓ ประเภทได้แก่  ๑. อภิชาติบุตร คือบุตรที่มีความดี คุณธรรม และความสามารถเหนือกว่าบิดา มารดา ๒. อนุชาตบุตร คือบุตรที่มีความดี คุณธรรม และความสามารถเสมอบิดา มารดา  ๓. อวชาตบุตร คือบุตรที่มีความดี คุณธรรม และความสามารถต่ำกว่าบิดา มารดา

การที่เราเป็นพ่อ เป็นแม่ของบุตรนั้น มีหน้าที่ที่ต้องให้กับลูกของเราคือ  ๑. ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว  ๒. ปลูกฝัง สนับสนุนให้ทำความดี  ๓. ให้การศึกษาหาความรู้  ๔. ให้ได้คู่ครองที่ดี (ใช้ประสพการณ์ของเราให้คำปรึกษาแก่ลูก ช่วยดูให้) ๕. มอบทรัพย์ให้ในโอกาสอันควร (การทำพินัยกรรม ก็ถือว่าเป็นสิ่งถูกต้อง)

ที่มา : http://www.dhammathai.org 

ปุตฺตสงฺโห  เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ - การสงเคราะห์บุตรธิดา เป็นอุดมมงคล

บัดนี้ จักได้วิสัชนาในมงคลที่ ๑๒ ตามพระบาลีอรรถกถาว่า ปุตตะสังคะโห นามะ แปลว่า บุคคลผู้ใดมีความสงเคราะห์ฺแก่บุตรหญิงชายทั้งหลายด้วยอามิสและปฎิบัติ จัดเป็นมงคลอันประเสริฐ

ถามว่า บุตรทั้งหลายมีเท่าไร แก้ว่า บุตรทั้งหลายนี้มี ๓ คือ อภิชาตบุตร ๑ อนุชาตบุตร ๑ อวชาตบุตร ๑ เป็น ๓ ดังนี้

อภิชาตบุตรนั้น ได้แก่บุตรหญิงชายทั้งหลายที่มีอุปนิสัยแก่กล้ายิ่งกว่าบิดามารดา ด้วยศรัทธาความเชื่อความเลื่อมใสในคุณพระรัตนตรัยทั้ง ๓ ประการ และเชื่อในทาน ศีล ภาวนา เชื่อในการบูชาและฟังธรรม ๑ มีศีล ๕ ศีล ๘ กรรมบถ ๑๐ ยิ่งกว่าบิดามารดา ๑ มีสุตตะ การฟังธรรมเทศนายิ่งกว่าบิดามารดา ๑ จาคะ ๑ มีความบริจากทานข้าวน้ำและผ้าผ่อนเป็นต้น ยิ่งกว่าบิดามารดา ๑ มีปัญญาความรู้พิจารณารู้ในทางโลกและทางธรรมยิ่งกว่าบิดามารดา ๑ บุตรทั้งหลายมีองค์ ๕ ยิ่งกว่าบิดามารดา ท่านเรียกว่าอภิชาตบุตร บุตรยิ่งกว่าบิดามารดา ฯ

ที่ ๒ อนุชาตบุตรนั้น ได้แก่บุตรหญิงชายที่เกิดมามีศรัทธา มีสุตะ จาคะ ปัญญา เสมอกับบิดามารดาไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน คือ มารดาบิดามีศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา บุตรหญิงชายทั้งหลายก็มีเสมอกัน ท่านเรียกว่า อนุชาตบุตร บุตรประพฤติตามบิดามารดา ฯ

ที่ ๓ อวชาตบุตร บุตรต่ำช้ากว่าบิดามารดาเป็นคนพาลว่ายากสอนยาก เป็นคนมักมากไปด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลง ไม่ดำรงตั้งมั่นอยู่ในศรัทธาศีลทานการภาวนา และฟังธรรมเทศนาเป็นคนหนาไปด้วยความโลภเจตนา ลักฉ้อล่อลวงเอาของที่เขาหวงมาเป็นของตน เป็นคนโทโสโกรธตีด่าบิดามารดาพี่หญิงพี่ชาย หยาบคายต่อผู้เฒ่าผู้แก่ เป็นบุตรนอกพ่อนอกแม่ ไม่ตั้งอยู่ในโอวาทของมารดาบิดา บุตรเป็นพาลไม่ประพฤติตามบิดามารดาของตน ฯ

ยังมีบุตรอีก ๓ จำพวก คือ อัตตวาสิกบุตร บุตรที่ขอเล่าเรียนศึกษาวิชาความรู้ของตน ๆ เป็นอาจารย์บอกความรู้ให้ ๑ ทินนกบุตร บุตรที่ขอมาเลี้ยงหรือบุตรเขาให้มาด้วยความชื่นตาชื่นใจ หรือบุตรที่ซื่อมาด้วยทรัพย์ ๑ อัตตรชบุตร บุตรที่บังเกิดแต่ตนเองด้วยความเสพสังวาสตามประเพณี ๑ ฯ

บัดนี้จักว่าด้วยการสงเคราะห์บุตรหญิงชายด้วยอามิสก่อน บิดามารดาเลี้ยงบุตรหญิงชายมาด้วยจิตเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ๔ ประการ ครั้นบุตรหญิงชายเจริญวัยใหญ่ขึ้นมา บิดามารดาควรสงเคราะห์ด้วยให้อามิส และข้อปฎิบัติ คือให้โอวาทคำสั่งสอนในทางโลกและทางธรรมทั้ง ๒ ประการ

สงเคราะห์ด้วยอามิสนั้น ตั้งแต่ป้อนข้าวอาบน้ำ หาของเคี้ยวของกัดให้แก่บุตรหญิงชายบริโภค และหาของเล่นมีรูปวัวควายเป็นต้น และหาเสื้อผ้าเครื่องประดับกาย มีกำไลเสมาและต่างหูเป็นต้น ให้แก่บุตรหญิงชายของตน จนถึงหาสามีภรรยา ให้ทรัพย์เงินตราทาสี ทาสา สวนนาเป็นที่สุด  แต่ในสิงคาลกสูตร พระพุทธองค์ทรงตรัสเทศนาแก่สิงคาลมาณพว่า คะหะปะติปุตตะ ดูก่อนคฤหบดีบุตร มารดาบิดาควรจะสงเคราะห์บุตรหญิงชายด้วยองค์ ๕ คือ 

ปาปา นิวาเรนติ  บิดามารดาจงห้ามเสียซึ่งบุตรหญิงชายทั้งหลายอย่าให้กระทำบาปต่าง ๆ มีฆ่าสัตว์ที่มีชีวิตและลักทรัพย์เป็นต้น ๑  กัลละยาเณ นิวาเสนติ  บิดามารดาจงชักชวนบุตรชายหญิงให้กระทำการกุศล มีให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนาฟังธรรมเป็นต้น ๑ สิปปัง สิกขาเปนติ  บิดามารดาจงยังบุตรหญิงชายให้เล่าเรียนศึกษาศีลปวิทยา ความฉลาดในทางโลกทางธรรม ๑ ปฎิรูเปนะ สังโยเชนติ  บิดามารดาจงหาสามีภรรยาที่สมควรแก่ตระกูลและทรัพย์ ใ้ห้แก่บุตรหญิงชายตามประเพณีคดีโลก ๑  สะมะเยทายัชชัง นิยาเทนติ  บิดามารดาควรมอบทรัพย์ให้แก่บุตรหญิงชายตามกาลตามสมัยที่จะพึงให้ คือ ให้เมื่อกระทำการมงคลมีโกนจุกและมีสามีภรรยาเป็นที่สุด ๑

อนึ่ง บิดามารดาควรจะให้ทรัพย์แก่บุตรหญิงชายเป็น ๒ อย่าง คือ ให้ตามกาลตามสมัย ๑ ให้เป็นนิตยกาลไม่มีกำหนด ๑ เมื่อมารดาบิดาสงเคราะห์แก่บุตรหญิงชายพร้อมด้วยองค์ ๒ องค์ ๕ ดังนี้แล้ว กุลบุตรหญิงชายควรจะอุปัฏฐากบิดามารดา ให้พร้อมด้วยองค์ ๕ นี้ ดังพรรณนามาแต่หนหลังนั้นเิถิด

อนึ่งการสงเคราะห์แก่บุตรชายหญิง เป็นประเพณีของพระอริยเจ้ากระทำมา เหมือนดังอนาถบิณฑิกะองค์พระโสดาบัน ก็ได้ทำการสงเคราะห์แก่บุตรในทางกุศล... 

ที่มา : http://larnbuddhism.com

มงคลที่ 1 , มงคลที่ 2 , มงคลที่ 3มงคลที่ 4 , มงคลที่ 5 , มงคลที่ 6 , มงคลที่ 7 มงคลที่ 8 , มงคลที่ 9 , มงคลที่ 10 , มงคลที่ 11 , มงคลที่ 12 , มงคลที่ 13 , มงคลที่ 14 , มงคลที่ 15 , มงคลที่ 16 , มงคลที่ 17 , มงคลที่ 18 มงคลที่ 19 , มงคลที่ 20 , มงคลที่ 21 , มงคลที่ 22 , มงคลที่ 23 , มงคลที่ 24 มงคลที่ 25 , มงคลที่ 26 , มงคลที่ 27 , มงคลที่ 28 , มงคลที่ 29 , มงคลที่ 30 , มงคลที่ 31 , มงคลที่ 32 , มงคลที่ 33 มงคลที่ 34 , มงคลที่ 35 , มงคลที่ 36มงคลที่ 37มงคลที่ 38 ฯ


Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: