“วัฏทุกข์อันเกิดแต่ความรัก”
มีพุทธอุทานในสุปปวาสาสูตรว่า “สิ่งที่ไม่น่ายินดี ย่อมครอบงำคนผู้ประมาท ด้วยอาการที่น่ายินดี, สิ่งที่ไม่น่ารัก ย่อมครอบงำคนผู้ประมาท ด้วยอาการที่น่ารัก, สิ่งที่เป็นทุกข์ ย่อมครอบงำคนผู้ประมาท ด้วยอาการที่เป็นสุข”
ในพุทธอุทานนี้ พระพุทธองค์ทรงอุทานแสดงว่า “ความรักที่ประกอบด้วยตัณหาสามารถทำความฉิบหายใหญ่หลวงแก่บุคคลผู้ประมาทได้”
ถามว่า อะไร ? เป็นสิ่งที่ไม่น่ายินดี เป็นสิ่งที่ไม่น่ารัก และเป็นสิ่งที่เป็นทุกข์ ในพุทธอุทานนั้น
ตอบว่า สังขารอันเป็นไปในวัฏฏะทั้งสิ้น (คนและสัตว์ทั้งหมด) เป็นสิ่งไม่น่าชื่นใจ ไม่น่ารัก และเป็นทุกข์แท้จริง แต่กลับปรากฏเป็นเหมือนน่าปรารถนา น่ารัก และเป็นสุข
ถามว่า เพราะอะไร คนและสัตว์ทั้งหมดจึงเป็นสิ่งไม่น่าชื่นใจ ไม่น่ารัก เป็นทุกข์แท้จริง แต่กลับปรากฏเป็นเหมือนน่าปรารถนา น่ารัก และเป็นสุข
ตอบว่า เพราะทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายและเพราะละวิปลาสไม่ได้ จึงหลอกล่วง ครอบงำ และท่วมทับบุคคลผู้ประมาทปราศจากสติ (เพราะคนและสัตว์ทั้งหมด เราจะรักใครชอบใครก็ตาม เราก็ต้องพลัดพรากจากกันอย่างแน่นอน เมื่อพลัดพรากจากกันก็เป็นทุกข์ เพราะสัตว์สังขารนั้นเป็นทุกข์อันไม่น่าปรารถนา)
เพราะฉะนั้น ทุกข์อันไม่น่าชื่นใจ ไม่น่าปรารถนา ย่อมท่วมทับหมู่สัตว์ ด้วยวัฏทุกข์อันเกิดแต่ความรักนั่นเอง.
สาระธรรมจากสุปปวาสาสูตร
พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ)
30/8/64
0 comments: