วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2564

ทำนายปัตถเวน - คำทำนายที่โคตรแม่น (ตอน ๖)

ทำนายปัตถเวน - คำทำนายที่โคตรแม่น (ตอน ๖)   คำทำนายฝันครั้งประวัติศาสตร์

ความฝันข้อที่ ๓   แม่โคกินนมลูกในไส้

ฝันเห็นแม่โคกินนมลูกโคที่เพิ่งเกิดในวันนั้น

คำทำนาย: 

ในอนาคต มนุษย์จะไม่เคารพนับถือผู้ใหญ่ ไม่มีความยำเกรงในบิดามารดาทั้งของตัวเองและของคู่ครอง เมื่อเติบโตหากินเองได้แล้วก็ละเลยทอดทิ้งพ่อแม่ ไม่คิดจะเลี้ยงดู อยากให้ก็ให้ ไม่อยากให้ก็ไม่ให้ พวกคนแก่หมดที่พึ่ง ก็จะพากันง้อขออาศัยพวกเด็กๆ กิน เหมือนแม่โคขอนมลูกกิน 

สรุปคำทำนายคือ ในอนาคต ผู้ใหญ่จะต้องอาศัยเด็กกิน 

ความเห็น:

เรื่องที่พ่อแม่หรือผู้ใหญ่จะต้องอาศัยลูกเป็นอยู่ในยามแก่ชรานั้น เป็นธรรมเนียมของชาวโลก โดยเฉพาะชาวตะวันออกประพฤติเช่นนั้นอยู่แล้ว แต่การ “อาศัยกิน” นั้น เกิดจากความกตัญญูรู้คุณ คือลูกๆ พอใจ เต็มใจ ที่จะเลี้ยงดูท่านเอง ไม่ใช่เพราะว่าพ่อแม่มางอนง้อขออาศัยกิน 

หลักคำสอนในพระพุทธศาสนาเรื่อง “ทิศหก” ก็มีปรากฏคุณสมบัติของลูกที่ดีอยู่ข้อหนึ่งว่า “ภโต  เนสํ  ภริสฺสามิ - ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ” 

การไม่เลี้ยงพ่อแม่นั้น ถือว่าเป็นความเลวอย่างร้ายแรงที่สุด 

แต่สภาพอย่างที่ปรากฏในคำทำนายนั้น หมายถึงลูกจะไม่คิดเลี้ยงพ่อแม่อีกต่อไป พ่อแม่ต้องอาศัยลูกกินในฐานะ “งอนง้อขอกิน” ไม่ใช่เพราะลูกพอใจ เต็มใจ ที่จะเลี้ยงดู แต่เพราะลูกมันไม่คิดเลี้ยง จึงต้องมากราบเท้าขอมันกิน ไม่เช่นนั้นก็อดตาย 

สภาพเช่นนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้โดยไม่ต้องสงสัย 

อันที่จริง สังคมตะวันตก หรือ “พวกฝรั่ง” ก็ดูเหมือนจะประพฤติใกล้เคียงกับคำทำนายอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ายังพอจะรู้จักพ่อแม่อยู่บ้าง เช่น ยังรู้จักไปเยี่ยมพ่อแม่ในเทศกาลพิเศษเป็นครั้งคราว  ส่วนคำทำนายดูเหมือนจะเล็งไปถึงขั้นไม่รู้จักบุญคุณพ่อแม่เอาเสียเลย จะหยิบยื่นให้พ่อแม่บ้างก็เท่ากับหยิบยื่นให้แก่คนทั่วไป หรือโยนเศษอาหารให้สัตว์เท่านั้น ไม่มีความนับถือผูกพันอันใด 

มานึกๆ ดู สัตว์ที่ออกลูกแล้วเลี้ยงลูก แม่หรือบางชนิดก็ทั้งพ่อทั้งแม่ช่วยกันเลี้ยงลูก พอลูกโตมันก็เลิกเลี้ยง แล้วก็ค่อยๆ ห่างเหินกันไปจนไม่รู้จักว่าเป็นพ่อแม่ลูกกันอีกต่อไป   สัตว์ที่หวนกลับมาเลี้ยงดูพ่อแม่น่าจะมีแต่ในนิทานชาดกเท่านั้น   มนุษย์ที่เจริญแล้วเลี้ยงดูพอแม่ ถึงกับกำหนดไว้เป็นหลักคำสอน 

ถ้าในอนาคตมนุษย์ไม่เลี้ยงพ่อแม่ถือเป็นเรื่องปกติ ก็แปลว่ามนุษย์ตกต่ำลงไปอยู่ในระดับเดียวกับสัตว์นั่นเอง เพียงแต่ว่ามันจะค่อยๆ ต่ำลงแบบไม่รู้สึกตัว 

ถ้าคิดเทียบเป็นตัวเลข เมื่อก่อนคนเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่มี ๑๐๐ คนเต็มๆ ต่อมาเกิดมีคนไม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ขึ้นมาคนหนึ่ง อีก ๙๙ คนก็ไม่รู้สึกอะไรเพราะยังเป็นพวกมากอยู่ ยังยึดมั่นในคุณธรรมข้อนี้อยู่เหมือนเดิม 

อัตราส่วนผกผันไปจนถึง ๕๐-๕๐ พวกเลี้ยงพ่อแม่กับไม่เลี้ยงพ่อแม่ก็ชักจะก้ำกึ่ง นานไปอีก พวกไม่เลี้ยงพ่อแม่ค่อยๆ มีมากขึ้นและมากกว่าขึ้นเรื่อยๆ   ในที่สุดการไม่เลี้ยงพ่อแม่ก็กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์ส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมด-ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นความเป็นมนุษย์ก็แทบไม่มีเหลือ คือตกไปอยู่ระดับเดียวกับสัตว์ 

ถ้ามนุษย์เมื่อสองพันปีก่อนฟื้นขึ้นมาเห็นมนุษย์สมัยนี้ทิ้งพ่อทิ้งแม่ (ยังรู้จักอยู่ว่าเป็นพ่อแม่ แต่ไม่มีเวลามาดูแล) ก็จะต้องอุทานว่า โอ้ เป็นไปได้อย่างไร 

มนุษย์สมัยเรานี้ที่ยังมีเลี้ยงพ่อแม่อยู่มาก มองไปเห็นมนุษย์ในอนาคตไม่เลี้ยงพ่อแม่ ก็คงจะต้องอุทานแบบเดียวกันว่า โอ้ เป็นไปได้อย่างไร

การที่เด็กไม่เคารพผู้ใหญ่นั้น เป็นไปได้และเป็นไปแล้ว สมัยผมเป็นเด็กตัวเล็กๆ นั้น ยังเคยได้ทันเห็นพวกผู้เฒ่าผู้แก่ไปไหนมาไหนตามถนนหนทาง แล้วมีเด็กๆ หรือหนุ่มๆ สาวๆ ยกมือไหว้เหมือนไหว้พระ  แต่เวลานี้ถ้ามีอย่างนั้นอีก ก็ต้องถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแน่ๆ 

ส่วนในความหมายแฝงนั้น การที่ผู้ใหญ่อาศัยเด็กหากิน ดูเหมือนจะเกิดขึ้นแล้วดาษดื่นในสังคมยุคนี้ ไม่มีอะไรน่าสงสัยว่าจะเป็นไปไม่ได้ 

คำกลอนทำนายพระยาปัตเถวน

หนึ่งฝันว่าแม่โคคาวิน   วอนขอนมลูกกินน่าบัดสี   โปรดภิปรายทายว่านิมิตนี้  ไปภายหน้าจะมีเป็นแน่นอน   คือพ่อแม่แก่ชรามาหาบุตร    ด้วยสิ้นสุดข้าวปลาและผ้าผ่อน    ต้องมายอบปลอบขอเฝ้าง้องอน    มันขอดค่อนสำทับให้อับอาย   หยาบช้าต่อบิดาชนนี    กล่าวพาทีให้ช้ำทำฉลาย   มิได้มีหิริโอตตัปปะอาย    หยาบคายขี่ข่มด้วยลมพาล ฯ  เอื้อเฟื้อต้นฉบับคำกลอน: อาทิตย์ รักษา

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย,  พฤษภาคม ๒๕๖๓,  ๑๑:๑๕

ช่วงวันเวลาที่คนไทยต้องร่วมกันให้กำลังใจหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ของไทยและของโลก

ทำนายปัตถเวน - คำทำนายที่โคตรแม่น (ตอน ๑),  (ตอน ๒),  (ตอน ๓),  (ตอน ๔),  (ตอน ๕),  (ตอน ๖)(ตอน ๗),  (ตอน ๘),  (ตอน ๙),  (ตอน ๑๐),  (ตอน ๑๑),  (ตอน ๑๒),   (ตอน ๑๓),  (ตอน ๑๔),  (ตอน ๑๕),  (ตอน ๑๖),  (ตอน ๑๗),  (ตอน ๑๘),  (ตอน ๑๙),  (ตอน ๒๐),  (ตอน ๒๑),  (ตอน ๒๒),  (ตอน ๒๓)








Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: