คนพาลที่ไปเกิดเป็นสัตว์แล้วจะกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้งนั้นยากแค่ไหน
[ณ วิหารเชตวัน กรุงสาวัตถี พระพุทธเจ้าพูดกับภิกษุเรื่องคนพาลและบัณฑิต]
พระพุทธเจ้า: ถ้ามีคนโยนทุ่นที่มีรูลงไปในมหาสมุทร ทุ่นนั้นถูกลมพัดไปมาซ้ายบ้างขวาบ้าง และมีเต่าตาบอดตัวหนึ่งอยู่ในมหาสมุทรน้ัน ซึ่งทุกร้อยปีจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำสักครั้งหนึ่ง พวกเธอว่าเต่าตาบอดตัวนั้นจะสอดคอเข้าไปในทุ่นนั้นได้บ้างไหม?
ภิกษุ: เป็นไปไม่ได้เลยท่าน หรือถ้าได้ก็ต้องใช้เวลานานมากๆ
พระพุทธเจ้า: เวลาที่เต่าตัวนั้นจะสอดคอเข้าที่ทุ่นนั้นได้ ยังจะเร็วกว่าเวลาที่คนพาลซึ่งไปเกิดเป็นสัตว์แล้วจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งเสียอีก นี่เป็นเพราะอะไร เพราะในภพภูมิที่รับทุกข์ (วินิบาต) นั้น ไม่มีการปฏิบัติธรรม ไม่มีการทำบุญทำกุศล และถึงจะกลับมาเกิดได้ ก็จะไปเกิดในตระกูลที่ยากลำบาก
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 23 (พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ ภาค 3 เล่ม 2 พาลบัณฑิตสูตร), 2559, น.143
ที่มาของอุปัชฌายะ (ผู้คอยสอดส่องเอาใจใส่), ที่มาของการเข้าพรรษา, ที่มาของการกำหนดวินัยสงฆ์ข้อแรก, ที่มาของการห้ามรับเงินทอง, ไม่คิดแพ้ชนะ, ทำเขาไว้อย่างไร ก็โดนคืนอย่างนั้น, บาปและบุญคือเงาตามตัวไปโลกหน้า, วิธีดึงให้หันมาหาแก่นแท้, ไม่ตึงไม่หย่อนไป, เมื่อรู้แจ้งอริยสัจ 4 แล้ว จะไม่มีการเกิดอีก
0 comments: