วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2564

สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน

สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน

[จากตำบลอุรุเวลา พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ 1,000 รูปซึ่งเคยเป็นชฎิล (ฤาษีบูชาไฟ) มาก่อน ได้เดินทางไปตำบลคยาสีสะใกล้แม่น้ำคยา ณ ที่นั้น พระพุทธเจ้ากล่าวว่า]

ภิกษุทั้งหลาย สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน    

อะไรเล่าที่ได้ชื่อว่าของร้อน ?

ตา (จักษุ) เป็นของร้อน รูปทั้งหลายเป็นของร้อน การรู้อารมณ์ผ่านทางตา (จักษุวิญญาณ) เป็นของร้อน การมองเห็นรับรู้ (จักษุสัมผัส คือ การบรรจบกันของช่องทางรับรู้ทางตา รูปหรือสิ่งที่จะถูกรับรู้ และการรับรู้) เป็นของร้อน ความรู้สึกสุข ทุกข์ หรือเฉยๆที่เกิดขึ้นจากการมองเห็นรับรู้นั้นก็เป็นของร้อน

หู...เสียง...การได้ยิน... ความรู้สึกที่เกิดจากการได้ยินนั้นเป็นของร้อน

จมูก...กลิ่น...การได้กลิ่น...ความรู้สึกที่เกิดจากการได้กลิ่นนั้นเป็นของร้อน

ลิ้น...รส...การรู้รส...ความรู้สึกที่เกิดจากการรู้รสนั้นเป็นของร้อน

กาย...สิ่งที่มากระทบกาย (โผฏฐัพพะ)...การรับรู้สิ่งที่มากระทบกาย...ความรู้สึกที่เกิดจากการรับรู้สิ่งที่มากระทบกายนั้นเป็นของร้อน

ใจ...เรื่องในใจ (ธรรมหรือธรรมารมณ์)...การรับรู้เรื่องในใจ...ความรู้สึกที่เกิดจากการรับรู้เรื่องในใจนั้นเป็นของร้อน

ร้อนเพราะอะไร ?

ร้อนเพราะไฟคือราคะ (ความอยาก) เพราะไฟคือโทสะ (ความโกรธ ขัดเคืองใจ) เพราะไฟคือโมหะ (ความหลง ความเขลา) ร้อนเพราะความเกิด ความแก่ ความตาย ความโศก ความรำพัน ทุกข์กาย ทุกข์ใจ และความคับแค้น

ผู้ที่ได้ฟังแล้วเห็นตามนี้

ย่อมเบื่อหน่ายในตา...รูป...การเห็น...ความรู้สึกที่เกิดจากการเห็น

ย่อมเบื่อหน่ายในหู...เสียง...การได้ยิน...ความรู้สึกที่เกิดจากการได้ยิน

ย่อมเบื่อหน่ายในจมูก...กลิ่น...การได้กลิ่น...ความรู้สึกที่เกิดจากการได้กลิ่น

ย่อมเบื่อหน่ายลิ้น...รส...การรู้รส...ความรู้สึกที่เกิดจากการรู้รส

ย่อมเบื่อหน่ายกาย...สิ่งที่มากระทบกาย...การรับรู้สิ่งที่มากระทบกาย...ความรู้สึกที่เกิดจากการรับรู้สิ่งที่มากระทบกาย

ย่อมเบื่อหน่ายใจ...เรื่องในใจ...การรับรู้เรื่องในใจ...ความรู้สึกที่เกิดจากการรับรู้เรื่องในใจ

เมื่อเบื่อหน่ายย่อมไม่อยาก (สิ้นกำหนัด) จิตก็หลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นก็รู้ว่าพ้น ทราบชัดว่าชาติสิ้นแล้ว ได้ทำสิ่งที่ควรทำเสร็จสิ้นหมดแล้ว

[ขณะนั้น จิตของพระภิกษุ 1,000 รูปก็หลุดพ้นจากกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในจิตเพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น]

ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 6 (พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 1 มหาขันธกะ เรื่องทรงแสดงอาทิตตปริยายสูตร), 2559, น.60-62

ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 1),  ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 2),  ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 3),  ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 4),  ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 5),  จะสอนใครเป็นคนแรกดี,  สอนธรรมะครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ (ตอน 1),  สอนธรรมะครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ (ตอน 2),  สอนธรรมะครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ (ตอน 3),  ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง,  ส่งพระสงฆ์ออกไปแสดงธรรมแก่หมู่ชน,  จะตามหาผู้หญิงหรือตามหาตัวเอง,  วิธีที่ทำให้ชฎิลยอมรับ





Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: