“นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า”
พระพุทธองค์ตรัสเรื่องอจินไตยไว้ในพุทธาปทาน คำว่า “อจินไตย” หมายถึงสภาวะที่พ้นความคิดของตนที่จะคิดได้ คือไม่อยู่ในวิสัยที่จะคิดได้
สิ่งที่เป็นอจินไตยในพุทธาปทานนั้นมี ๒ ประการ คือ ๑. พระพุทธเจ้า ๒. พระธรรม
พระพุทธเจ้าและพระธรรมเป็นอจินไตยสำหรับผู้เลื่อมใส และมีวิบากเป็นอจินไตยสำหรับผู้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ ดังพระดำรัสว่า
“ตามที่กล่าวมานี้ พระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นอจินไตย ธรรมของพระพุทธเจ้าก็เป็นอจินไตย สำหรับผู้ที่เลื่อมใสในอจินไตย ย่อมมีวิบากเป็นอจินไตย”
ในพุทธาปทานนั้นมีคำสอนดังนี้ คือ
คำสอนที่ ๑ “ท่านทั้งหลาย จงเห็นความเกียจคร้านเป็นสิ่งน่ากลัว แต่จงเห็นความเพียรเป็นสิ่งปลอดภัย จงบำเพ็ญเพียรกันเถิด นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า”
คำสอนที่ ๒ “ท่านทั้งหลาย จงเห็นการวิวาทกันเป็นสิ่งน่ากลัว แต่จงเห็นการไม่วิวาทกันเป็นสิ่งปลอดภัย จงสมัครสมานสามัคคีกัน พูดจาไพเราะกันเถิด นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า”
คำสอนที่ ๓ “ท่านทั้งหลาย จงเห็นความประมาทเป็นสิ่งน่ากลัว แต่จงเห็นความไม่ประมาทเป็นสิ่งปลอดภัย จงเจริญมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ เถิด นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า”
อธิบาย
มรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ คือ สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ) สัมมาวาจา (การเจรจาชอบ) สัมมากัมมันตะ (การทำการงานชอบ) สัมมาอาชีวะ (การเลี้ยงชีพชอบ) สัมมาวายามะ (ความเพียรชอบ) สัมมาสติ (ความระลึกชอบ) สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ)
ผู้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าและปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ย่อมมีวิบากเป็นอจินไตย คือให้ผลทั้งมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ ดังนี้แล.
สาระธรรมจากพุทธาปทาน
พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ)
10/9/64
0 comments: