ผลแห่งการถวายอาสนะดอกไม้
พระโสปากเถระได้ประกาศประวัติในอดีตชาติของตนไว้ว่า
“พระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิทธัตถะ ได้เสด็จมายังสำนักของข้าพเจ้า ผู้กำลังทำความสะอาดเงื้อมเขาอยู่ที่ภูเขาสูง
ข้าพเจ้าเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จเข้ามา จึงปูลาดเครื่องปูลาดถวายอาสนะดอกไม้ แด่พระพุทธเจ้าผู้เจริญที่สุดในโลกผู้คงที่
พระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิทธัตถะ ผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก ได้ประทับนั่งบนอาสนะดอกไม้แล้ว ทรงทราบคติของข้าพเจ้าแล้ว
(ทรงทราบว่าบุคคลนี้กำลังจะถึงมรณกาล) จึงตรัสถึงสภาวะไม่เที่ยงว่า
“สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป ความเข้าไปสงบสังขารเหล่านั้นเป็นความสุข”
ฯลฯ ข้าพเจ้าละทิฏฐิของตนแล้ว เจริญอนิจจสัญญา กำหนดหมายความไม่เที่ยงแห่งสังขาร ครั้นเจริญอนิจจสัญญาได้วันเดียว ก็สิ้นชีวิต ณ ที่นั้นเอง
ข้าพเจ้าเสวยสมบัติทั้ง ๒ แล้ว (คือมนุษย์สมบัติและสวรรค์สมบัติ) ถูกกุศลมูลตักเตือน มาถึงภพสุดท้ายได้เกิดในตระกูลพ่อครัว ข้าพเจ้าออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต มีอายุ ๗ ขวบก็ได้บรรลุอรหัตตผล
ข้าพเจ้าบำเพ็ญเพียรมีจิตเด็ดเดี่ยว ตั้งมั่นอยู่ในศีลด้วยดี ให้พระผู้มีพระภาคทรงพอพระทัยแล้วได้อุปสมบท (ท่านได้อุปสมบทเป็นภิกษุตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วได้บวชโดยวิธีทูลตอบปัญหา)
ในกัปที่ ๙๔ นับจากกัปนี้ไป ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายอาสนะดอกไม้ ดังนี้เป็นต้น
เพราะฉะนั้น คนเราแม้จะมีอายุเหลืออยู่ไม่กี่วัน ก็ยังสามารถทำกุศลไว้ได้ หากไม่ประมาทมีจิตเลื่อมใสใจศรัทธากระทำการบูชาในฐานะที่ควรบูชา ย่อมประสบบุญเป็นอันมาก ดังนี้แล.
สาระธรรมจากโสปากเถราปทาน
พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ)
21/9/64
0 comments: