วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2564

แสดงธรรมต่อหน้าพระเจ้าพิมพิสารและหมู่พราหมณ์

แสดงธรรมต่อหน้าพระเจ้าพิมพิสารและหมู่พราหมณ์

[จากตำบลคยาสีสะ พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ 1,000 รูป ซึ่งเคยเป็นชฎิลมาก่อน ได้เดินทางไปแคว้นมคธ กรุงราชคฤห์ และพักอยู่ที่สุประดิษฐเจดีย์ในสวนตาลหนุ่ม เมื่อพระเจ้าพิมพิสาร (พระราชาแคว้น) ทราบข่าวก็คิดว่าเป็นการดีที่จะได้พบพระพุทธเจ้าและเหล่าภิกษุ จึงเดินทางไปหาพร้อมกับพราหมณ์อีก 12 นหุต (หมื่น)]

[เมื่อไปถึง พระเจ้าพิมพิสารได้แสดงความเคารพพระพุทธเจ้าและนั่งลงใกล้ๆ ส่วนบรรดาพราหมณ์นั้น บ้างก็แสดงความเคารพ บ้างก็เข้าไปพูดคุยด้วย บ้างก็นั่งนิ่งเฉย แต่ทั้งหมดต่างนึกสงสัยว่า พระมหาสมณะบวชในสำนักของท่านอุรุเวลกัสสปะ หรือท่านอุรุเวลกัสสปะบวชในสำนักของพระมหาสมณะกันแน่ โดยขณะนั้น พระพุทธเจ้าพอทราบความในใจของเหล่าพรามหณ์ จึงพูดกับพระอุรุเวลกัสสปะว่า]

พระพุทธเจ้า:  ท่านอยู่ในอุรุเวลามานาน เคยเป็นอาจารย์สอนชฎิลมากมาย เพราะเหตุใด ท่านถึงเลิกบูชาไฟ ?

พระอุรุเวลกัสสปะ:  การเซ่นสรวงบูชา (ยัญ) กล่าวยกย่องชื่นชมรูป เสียง และรสที่น่าปรารถนา รวมถึงสตรีทั้งหลาย ซึ่งข้าฯรู้ว่านี่เป็นสภาพที่พัวพันไปด้วยกิเลส (อุปธิ) เพราะเหตุนี้ จึงเลิกเสีย

พระพุทธเจ้า:  กัสสปะ เมื่อใจของท่านไม่ยินดีในรูป เสียง และรสเหล่านั้นแล้ว ตอนนี้ใจของท่านยินดีในสิ่งใด ?

พระอุรุเวลกัสสปะ:  ข้าฯได้เห็นทางสงบ ไม่วุ่นวายไปด้วยกิเลส ไม่กังวล ไม่ติดอยู่ในความใคร่อยาก ซึ่งธรรมเหล่านี้ ต้องทำด้วยตัวเอง ไม่มีใครช่วยได้ และเพราะเหตุนี้ ข้าฯจึงไม่เซ่นสรวงบูชาอะไรอีกต่อไป

[เมื่อพูดจบก็ได้ลุกจากที่นั่ง ห่มผ้าเฉวียงบ่า และก้มลงที่เท้าของพระพุทธเจ้า]

พระอุรุเวลกัสสปะ:  ท่านคือศาสดาของข้าฯ ข้าฯเป็นสาวกของท่าน

[ขณะนั้น พรามหณ์ทั้งหลายได้เห็นชัดเจนแล้วว่าท่านอุรุเวลกัสสปะได้บวชในสำนักของพระมหาสมณะ หลังจากนั้น พระพุทธเจ้าก็ได้แสดงธรรมตามลำดับตั้งแต่ขั้นต้นขึ้นไป 5 ข้อ (อนุปุพพิกถา) คือ เรื่องทาน ศีล สวรรค์ โทษของกามคือความใคร่ความอยาก และประโยชน์ของการออกบวช ละเว้นจากกาม ซึ่งเมื่อท่านเห็นว่า พรามหณ์เหล่านี้มีจิตใจที่พร้อมจะฟังธรรมที่ยากขึ้นแล้ว ก็ได้สอนเรื่องอริยสัจ 4 (ความจริงแท้ 4 ข้อ คือ ทุกข์ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ การดับทุกข์ และวิธีดับทุกข์) ซึ่งหลังจากฟังแล้ว พราหมณ์ 11 นหุตได้เกิดดวงตาเห็นธรรม คือ เห็นว่าสิ่งต่างๆมีเกิดมีดับเป็นธรรมดา ส่วนพรามหณ์อีก 1 นหุตได้แสดงตนเป็นอุบาสก (ขอยึดพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง)]

ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 6 (พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 1 มหาขันธกะ เรื่องพระเจ้าพิมพิสาร), 2559, น.62-65

ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 1),  ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 2),  ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 3),  ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 4),  ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 5),  จะสอนใครเป็นคนแรกดี,  สอนธรรมะครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ (ตอน 1),  สอนธรรมะครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ (ตอน 2),  สอนธรรมะครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ (ตอน 3),  ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง,  ส่งพระสงฆ์ออกไปแสดงธรรมแก่หมู่ชน,  จะตามหาผู้หญิงหรือตามหาตัวเอง,  วิธีที่ทำให้ชฎิลยอมรับ,  สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน








Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: