ที่มาของคู่สาวกพระพุทธเจ้า
[ณ กรุงราชคฤห์ สารีบุตรปริพาชก (นักบวชนอกศาสนาพุทธ) และโมลคัลลานปริพาชก ซึ่งได้พาปริพาชกอีก 250 คนมาบวชอยู่ในสำนักของสัญชัยปริพาชก ได้ตกลงกันไว้ว่า ‘ถ้าใครบรรลุธรรมก่อน ให้บอกอีกคนด้วย’]
[เช้าวันหนึ่ง สารีบุตรฯได้เห็นพระรูปหนึ่ง (พระอัสสชิ) กำลังเดินบิณฑบาตอยู่ ดูมารยาทดี ท่าทางน่าเลื่อมใส นัยน์ตาทอดต่ำ จึงเข้าไปคุยด้วยพักหนึ่งแล้วถามว่า]
ส: หน้าตาผิวพรรณท่านดูบริสุทธิ์ผ่องใส ใครเป็นศาสดาของท่าน ท่านชอบธรรมะของใครหรือ?
อ: มีพระมหาสมณะรูปหนึ่งซึ่งเป็นบุตรจากตระกูลศากยะ พระองค์เป็นศาสดาของเรา เราชอบธรรมะของท่าน
ส: พระศาสดาของท่านสอนอะไรบ้าง?
อ: เราพึ่งบวชใหม่ ยังไม่อาจแสดงธรรมให้ท่านได้มากนัก แต่อาจกล่าวได้แค่ย่อๆ
ส: น้อยหรือมากก็เชิญเถิด ท่านกล่าวแต่ใจความก็พอ ข้าฯต้องการแต่ใจความ ไม่ต้องขยายความมากหรอก
อ: ปกติพระมหาสมณะจะกล่าวว่า สิ่งต่างๆเกิดขึ้นจากเหตุปัจจัย (ทุกข์) พระตถาคต (ผู้มาและไปเช่นนั้นเอง) ได้กล่าวถึงเหตุนั้น (สมุทัย) และการดับไปของสิ่งต่างๆ (นิโรธ) อันเนื่องมาจากการหมดไปของเหตุนั้น
[ขณะนั้น สารีบุตรฯได้เกิดดวงตาเห็นธรรมว่า สิ่งต่างๆมีเกิดมีดับเป็นธรรมดา และคิดว่านี่แหละคือธรรมที่หามานาน จากนั้นสารีบุตรฯได้เข้าไปหาโมคคัลลานะฯ]
ม: หน้าตาผิวพรรณท่านดูบริสุทธิ์ผ่องใส ท่านบรรลุธรรมแล้วใช่ไหม?
ส: ถูกแล้ว เราบรรลุแล้ว
ม: ท่านบรรลุได้อย่างไร ด้วยวิธีอะไร?
[สารีบุตรฯได้เล่าให้ฟังทั้งหมด ซึ่งโมคคัลลานะฯก็ได้เกิดดวงตาเห็นธรรมเช่นกัน]
ม: เราพากันไปสำนักของพระองค์เถอะ เพราะท่านเป็นศาสดาของเราแล้ว
ส: ยังมีปริพาชก 250 คนที่ตามเรามาอยู่ในสำนักนี้ เราควรบอกพวกเขาก่อน ให้เขาตัดสินใจเองว่าจะเอาอย่างไร
[เมื่อนั้น เหล่าปริพาชกต่างเห็นตรงกันว่า พวกเขามาบวชในสำนักสัญชัยฯก็เพราะตามสารีบุตรฯโมคคัลลานะฯมา ถ้าทั้งสองท่านจะออกไปบวชในสำนักพระมหาสมณะ ก็จะขอตามไปด้วย เมื่อสรุปอย่างนี้ ทั้งสองจึงเข้าไปหาท่านสัญชัยฯ เพื่อขอลา]
สารีบุตรฯโมคคัลลานะฯ: ท่านสัญชัย พวกผมจะไปบวชในสำนักพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าคือศาสดาของพวกผม
สัญชัยฯ: อย่าไปเลยท่าน เรา 3 คนอยู่ช่วยกันบริหารสำนักของเรานี้เถอะ
[สัญชัยฯขอร้องอีกสองครั้งก็ไม่เป็นผล สุดท้ายทั้งสองท่านได้พาปริพาชกอีก 250 คนไปวัดเวฬุวัน ซึ่งสัญชัยฯถึงกับกระอักเลือด]
[เมื่อพระพุทธเจ้าเห็นสารีบุตรฯโมคคัลลานะฯเดินมาแต่ไกล ก็บอกกับภิกษุทั้งหลายว่า]
พระพุทธเจ้า: สองคนที่กำลังเดินมานั้นเป็นเพื่อนกัน คือโกลิตะ และอุปติสสะ (ชื่อตอนเป็นฆราวาส) ทั้งสองจะเป็นคู่สาวกชั้นยอดของเรา
[พอทั้งสองมาถึงได้ก้มลงกราบเท้าพระพุทธเจ้า]
สารีบุตรฯโมคคัลลานะฯ: ขอพวกข้าฯได้บวชในสำนักของท่านด้วยเถิด
พระพุทธเจ้า: เธอจงมาเป็นภิกษุเถิด เธอจงปฏิบัติตามคำสอนที่เรากล่าวไว้ดีแล้วเพื่อให้พ้นทุกข์เถิด
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 6 (พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 1 มหาขันธกะ เรื่องการบรรพชาของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ), 2559, น.70-75
ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 1), ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 2), ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 3), ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 4), ช่วง 35 วันแรกหลังการตรัสรู้ (ตอน 5), จะสอนใครเป็นคนแรกดี, สอนธรรมะครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ (ตอน 1), สอนธรรมะครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ (ตอน 2), สอนธรรมะครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ (ตอน 3), ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง, ส่งพระสงฆ์ออกไปแสดงธรรมแก่หมู่ชน, จะตามหาผู้หญิงหรือตามหาตัวเอง, วิธีที่ทำให้ชฎิลยอมรับ, สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน, ที่มาของวัดแห่งแรกในพุทธศาสนา
0 comments: