วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ฌานโสธนชาตกํ - ว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ

ฌานโสธนชาตกํ - ว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ

"เย สญฺญิโน เตปิ ทุคฺคตา, เยปิ อสญฺญิโน เตปิ ทุคฺคตา;  เอตํ อุภยํ วิวชฺชย, ตํ สมาปตฺติสุขํ อนงฺคณนฺติ ฯ   สัตว์เหล่าใดเป็นผู้มีสัญญา แม้สัตว์เหล่านั้นก็ชื่อว่าเป็นทุคตะสัตว์เหล่าใดเป็นผู้ไม่มีสัญญา ถึงสัตว์เหล่านั้นก็ชื่อว่า เป็นทุคตะ ท่านจงละเว้นความเป็นสัญญีสัตว์และอสัญญีสัตว์ทั้ง ๒ นี้เสีย สุขอันเกิดจากสมาบัตินั้น เป็นของไม่มีกิเลสเครื่องยั่วยวน."

อรรถกถาฌานโสธนชาดกที่ ๔ 

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารทรงปรารภการที่พระธรรมเสนาบดีพยากรณ์ปัญหาที่พระองค์ตรัสถาม โดยย่อได้อย่างพิสดาร ณ ประตูสังกัสนคร ตรัสพระธรรมเทศนานี้  มีคำเริ่มต้นว่า   เย  สญฺญิโน  ดังนี้.

ต่อไปนี้เป็นเรื่องอดีต ในการพยากรณ์ปัญหานั้น.  ได้ยินว่า  ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ อยู่ในพระนครพาราณสี   พระโพธิสัตว์กำลังจะมรณภาพที่ชายป่า ถูกพวกอันเตวาสิกถาม ก็กล่าวว่า เนวสัญญีนาสัญญี มีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ ฯลฯ (เหมือนกับเรื่องใน #ปโรสหัสสชาดก) พวกดาบสไม่ยอมเชื่อถ้อยคำของอันเตวาสิกผู้ใหญ่ พระโพธิสัตว์จึงมาแต่พรหมชั้นอาภัสสระ ยืนอยู่ในอากาศกล่าวคาถานี้ว่า :- 

„สัตว์เหล่าใดเป็นผู้มีสัญญา แม้สัตว์ เหล่านั้นก็ชื่อว่าเป็นทุคตะ สัตว์เหล่าใดเป็นผู้ไม่มีสัญญา ถึงสัตว์เหล่านั้นก็ชื่อว่าเป็นทุคตะท่านจงละเว้นความเป็นสัญญีสัตว์และอสัญญีสัตว์ทั้งสองนี้เสีย สุขอันเกิดจากสมาบัตินั้น เป็นสุขที่ไม่มีกิเลสเครื่องยั่วยวน.“

ในบรรดาบทเหล่านั้น ด้วยบทว่า  เย  สญฺญิโน  นี้ท่านแสดงถึงหมู่สัตว์ที่มีจิตที่เหลือ เว้นท่านผู้ได้เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน.  บทว่า  เตปิ  ทุคฺคตา  ความว่า เพราะไม่ได้สมาบัตินั้นแม้ชนเหล่านั้นจึงยังเป็นผู้ชื่อว่าทุคตะ.  ด้วยบทว่า  เยปิ  อสญฺญิโน  นี้ท่านแสดงถึงอจิตตกสัตว์ผู้เกิดในอสัญญีภพ.   บทว่า  เตปิ ทุคฺคตา  ความว่า ถึงแม้สัตว์เหล่านั้นก็ยังคงเป็นทุคตะอยู่เหมือนกัน เพราะยังไม่ได้สมาบัตินี้นั้นแหละ.  บทว่า  เอตํ  อุภยํ  วิวชฺชย  ความว่า พระโพธิสัตว์ให้โอวาทแก่อันเตวาสิกต่อไปว่า เธอจงเว้นเสีย ละเสีย แม้ทั้งสองอย่างนั้น คือ สัญญีภาวะและอสัญญีภาวะ.  บทว่า  ตํ  สมาปตฺติสุขํ  อนงฺคณํ  ความว่า ความสุขในฌานนั้น คือที่ถึงการนับว่า เป็นสุข โดยเป็นธรรมชาติสงบระงับของท่านผู้ได้เนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ เป็นอนังคณะคือปราศจากโทษ แม้เพราะความที่แห่งจิตมีอารมณ์แน่วแน่มีกำลังเป็นสภาพความสุขนั้น ก็ชื่อว่าเป็นของไม่มีกิเลสเครื่องยียวน.

พระโพธิสัตว์แสดงธรรมสรรเลริญคุณของอันเตวาสิกด้วยประการฉะนี้ แล้วก็ได้กลับคืนไปยังพรหมโลก คราวนั้นดาบสที่เหลือ ต่างพากันเชื่อฟัง อันเตวาสิกผู้ใหญ่.

พระศาลดา ทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ตรัสประชุมชาดกว่า อันเตวาสิกผู้ใหญ่ในครั้งนั้นได้มาเป็นพระสารีบุตรส่วนท้าวมหาพรหมได้มาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล. จบอรรถกถาฌานโสธนชาดกที่ ๔

ที่มา : Palipage: Guide to Language - Pali



Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: