วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2564

การอยู่บนโลกให้มีความสุข

การอยู่บนโลกให้มีความสุข 

ประการแรกต้องยอมรับความเป็นจริงของโลก เพราะโลกคือแผ่นดินและหมู่สัตว์ผู้อาศัย.  แผ่นดินก็ต่างกันตามภูมิภาค ส่วนหมู่สัตว์ก็ต่างกันจากวิบากกรรมที่อำนวยผลมาให้และอาศัยปากกัดตีนถีบในปัจจุบัน บุคคลจะได้สุขหรือได้ทุกข์แต่โดยส่วนเดียวนั้นหาได้ยาก

เพราะฉะนั้น อย่าติดอยู่ในสิ่งอันเป็นอุปการะ อย่าหลงระเริงจนเกินพอดีในสิ่งมัวเมา และอย่าเพลิดเพลินในสิ่งอันให้โทษ.  บุคคลเป็นทุกข์เพราะถูกกิเลสจูงไปตามปรารถนาในสิ่งอันล่อตาล่อใจยั่วยวนให้ติด แต่บุคคลก็เป็นสุขได้เพราะมีใจอิสระด้วยตน คือไม่ติดในสุขแม้อันประณีตและไม่ทุกข์ในเมื่อทุกอย่างแปรเปลี่ยนไป. - พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ)

------------

อย่ามัวเสียเวลาไปให้ใครๆ ทำนายรอยมือรอยเท้าเลย,  เพราะว่า รอยเท้าของนกตัวบินไปในอากาศ ใครๆ ก็ไม่อาจเพื่อจะรู้ได้ฉันใด  รอยมือรอยเท้าของคนเรา ใครๆ ก็ไม่อาจเพื่อจะทายได้ว่า “รอยเช่นนี้จะไปทางนรก หรือจะไปทางกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน หรือจะไปทางสวรรค์” ฉันนั้นเหมือนกัน,  นอกเสียจากรอยบุญรอยบาปที่เราได้ทำไว้แล้วหรือได้สั่งสมไว้แล้วเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องทำนายโลกหน้าของเราได้. (พระมหาวัชระ เชยรัมย์)

หากใจมิได้สงบก็จบลงบนกองทุกข์แน่นอน

หากจิตใจดี จะทำอะไรก็ทำด้วยความซื่อตรง จะพูดอะไรก็พูดด้วยความสัตย์จริง เพราะการกระทำและคำพูดมีใจเป็นใหญ่เป็นประธาน (พระมหาวัชระ เชยรัมย์)

ความวิปริตคลาดเคลื่อนของจิตเกิดจาก ๑.จำความหมายคลาดเคลื่อน ๒.ความคิดคลาดเคลื่อน ๓.ความเห็นคลาดเคลื่อน

คือจิตที่ชอบจำ หรือคิด หรือเห็น ๑.ในสิ่งที่ไม่เที่ยง ว่าเที่ยง ๒.ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ว่าเป็นสุข ๓.ในสิ่งที่ไม่เป็นตัวตน ว่าเป็นตัวตน ๔.ในสิ่งที่ไม่งาม ว่างาม. เพราะฉะนั้น จงจำ หรือจงคิด หรือจงเห็นตามความเป็นจริงเถิด เพราะทุกสิ่งไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา และไม่สวยงาม (พระมหาวัชระ เชยรัมย์)

แม้ได้ยินมากับหูได้ดูมากับตา แต่ก็ต้องพิจารณาด้วยใจที่เป็นธรรม อย่าให้อคติบังใจ นับประสาอะไรกับสิ่งที่ไม่ได้ยินไม่ได้เห็นเอง ฉะนั้นจงอย่าเชื่อใจใคร. (พระมหาวัชระ เชยรัมย์)



Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: