จิตใจที่หายโง่คือมองเห็นทุกสิ่งเป็นเพียงธรรมชาติล้วนๆ
คือคำว่าทุกสิ่ง ไม่หมายถึงแต่เตรียมวัตถุรูปธรรม หมายถึงนามธรรมด้วย ฉะนั้นความได้อย่างใจ หรือความไม่ได้อย่างใจ นี้ก็เป็นธรรมชาติล้วนๆ การยกหูชูหางก็ธรรมชาติชนิดหนึ่ง การสยบซบเซา ก็ธรรมชาติชนิดหนึ่ง แต่ในที่สุดก็คือธรรมชาติ คือธรรมชาติอย่างเดียว
ธรรมชาติคือสิ่งที่ไหลเรื่อย เปลี่ยนแปลงเรื่อย ไหลเรื่อยพวกหนึ่ง นี้ธรรมชาติอีกพวกหนึ่ง ก็คือ ตรงกันข้าม คือหยุด ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ไหล เพราะไม่มีความคิดเป็นตัวกู - ของกู แต่ว่าโดยที่แท้ทั้ง ๒ อย่างไม่ใช่ตัวตนทั้งนั้น ทั้ง ๒ ธรรมชาติ ธรรมชาติปรุงแต่ง หรือธรรมชาติไม่ปรุงแต่งก็ตาม ไม่ใช่ตัวตนทั้งนั้น นี่คือ #ธรรมชาติทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
มีให้เหลือแต่ธรรม หรือธรรมชาติ ไม่มีตัวตน หรือตัวกูหรือของกู ที่ลักษณะหนึ่งจะต้องไปดีใจกะมัน ลักษณะหนึ่งจะต้องไปเศร้าเสียใจกะมัน เดี๋ยวนี้เรามีแต่ เดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวเสียใจ เดี๋ยวยินดี เดี๋ยวยินร้าย เดี๋ยวยกหูชูหาง เดี๋ยวหดหู หดหาง นี้มันก็เรียกว่า ธรรมดาที่สุด ธรรมดามากเกินไป ไม่มีอะไรผิดธรรมดา ที่ควรแก่จะถือว่าดีมีค่า หรือว่าน่าสนใจ ก็คือจมอยู่ในกองทุกข์ ทุกข์ที่เคลือบน้ำตาลก็มี ทุกข์ที่ไม่ได้เคลือบอะไร เป็นทุกข์ตรงๆ ก็มี ก็ได้จมอยู่ในกองทุกข์ทั้งนั้น
พุทธทาสภิกขุ , ธรรมโฆษณ์ l ธรรมปาฏิโมกข์ เล่ม 2 (น.117)
ที่มา : line ปันบุญ ปันธรรม
0 comments: