โอกาสเกิดเป็นมนุษย์นั้นสุดแสนยาก แต่โอกาสเกิดมาพบพระสัทธรรมของพระพุทธเจ้านั้นยากยิ่งกว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า.... “ ภิกษุทั้งหลาย ! เปรียบเหมือนมหาปฐพีนี้เนื่องเป็นอันเดียวกัน บุรุษพึงโยนแอกที่มีรูเดียวลงบนมหาปฐพีนั้น ลมทางทิศตะวันออกพัดแอกนั้นไปทางทิศตะวันตก ลมทางทิศตะวันตกพัดไปทางทิศตะวันออก ลมทางทิศเหนือพัดไปทางทิศใต้ ลมทางทิศใต้พัดไปทางทิศเหนือ บนมหาปฐพีนั้นมีเต่าตาบอดอยู่ตัวหนึ่ง มันโผล่ขึ้นมา ๑๐๐ ปีต่อครั้ง เธอทั้งหลายจะเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร เต่าตาบอดโผล่ขึ้นมา ๑๐๐ ปีต่อครั้ง จะสอดคอเข้าไปในแอกที่มีรูเดียวโน้นนั้นได้บ้างหรือ"
.... ( ภิกษุ “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้อที่เต่าตาบอดนั้นโผล่ขึ้นมา ๑๐๐ ปีต่อครั้ง จะสอดคอเข้าไปในแอกที่มีรูเดียวโน้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก” )
.... “ ภิกษุทั้งหลาย ! อุปมานี้ฉันใด อุปไมยก็ฉันนั้นเหมือนกัน การได้ความเป็นมนุษย์ก็ยาก การที่ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกก็ยาก การที่ธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้วรุ่งเรืองในโลกก็ยาก
.... บัดนี้ เต่านั้นได้ความเป็นมนุษย์นี้แลัว(หมายถึงเราได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว) ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้วในโลก และธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้วก็รุ่งเรืองในโลก
.... ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุนั้น เธอทั้งหลายพึงทำความเพียรเพื่อรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า “ นี้ทุกข์, นี้ทุกขสมุทัย, นี้ทุกขนิโรธ, นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ( คือรู้อริสัจ ๔ นั่นเอง )”
ทุติยฉิคคฬยุคสูตร, พระไตรปิฎกภาษาไทย(มจร ) สงฺ. ม. ๑๙/๑๑๑๘/๖๓๑, ท. ส. ปัญญาวุฑโฒ - รวบรวม
0 comments: