วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564

“ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ไม่มีเครื่องหมาย ไม่มีใครรู้...”

“ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ไม่มีเครื่องหมาย ไม่มีใครรู้ ทั้งยาก ทั้งน้อย และระคนด้วยทุกข์ ความเพียรพยายามที่จะช่วยให้สัตว์ที่เกิดมาแล้ว ไม่ต้องตายได้นั้น ไม่มีเลย แม้อยู่ได้ถึงชรา ก็ต้องตาย เพราะสัตว์ทั้งหลาย มีธรรมดาอย่างนี้เอง” สัลลสูตร ที่ ๘  ขุ. สุ. ๒๕/๓๘๐/๔๔๗

…. “ยกเว้นพระโลกนาถเจ้าเสีย สัตว์เหล่าใดเหล่าหนึ่งที่มีอยู่ สัตว์นั้นว่าโดยปัญญาย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งพระสารีบุตรพระอัครสาวกที่หนึ่งได้ มีปัญญามากถึงอย่างนี้ ยังถึงซึ่งอำนาจแห่งความตาย จะป่วยกล่าวไปไยในคนทั้งหลายเช่นเราเล่า.

…. แม้พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงปกครองแผ่นดินทั้งสิ้น ทรงสละพระราชทรัพย์ตั้งร้อยโกฏิ ทรงเป็นผู้มีความสุขในบั้นปลาย ถึงความเป็นใหญ่แห่งวัตถุเพียงผลมะขามป้อมครึ่งผลด้วยทั้งเรือนร่างนั้นแล แม้เมื่อท้าวเธอทรงสิ้นบุญแล้ว พระองค์ก็ทรงบ่ายพระพักตร์ต่อมรณะ ก็ต้องมาถึงซึ่งความโศกเศร้า จะป่วยกล่าวไปไยในคนทั้งหลายเช่นเราเล่า.

…. ท่านผู้มียศใหญ่ทั้งหลาย เป็นท้าวพญาผู้ประเสริฐ เช่น ท้าวมหาสมมติ(มหากษัตริย์) เป็นต้น แม้ท่านเหล่านั้นยังถึงซึ่งอำนาจแห่งความตาย จะป่วยกล่าวไปไยในคนทั้งหลายเช่นเราเล่า” -คัมภีร์วิสุทธิมรรค, อนุสสติกัมมัฏฐานนิเทศ มรณานุสสติกถา

พระพุทธองค์ตรัสถึง “ความเป็นผู้ไม่ประมาท” ไว้ ดังนี้

…. “ ภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุรูปใดเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า “ โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้เพียงชั่วขณะเคี้ยวกินคำข้าว ๑ คำ เราพึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงทำกิจให้มากหนอ ”

…. และ ภิกษุรูปใดเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า “โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้เพียงชั่วขณะลมหายใจเข้าหายใจออก หรือหายใจออกหายใจเข้า เราพึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงทำกิจให้มากหนอ ”

…. ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่า ภิกษุเหล่านี้เป็นผู้ไม่ประมาทอยู่ เจริญมรณัสสติอย่างแรงกล้าเพื่อความสิ้นอาสวะทั้งหลาย ” -ปฐมมรณัสสติสูตร  องฺ. ฉกฺก. ๒๒/๑๙/๔๔๖-๔๔๘

หมายเหตุ : มนสิการ คือ การทำในใจ, ใส่ใจ, พิจารณา , ธรรมะเพื่อทางพ้นทุกข์ โดย ท. ส. ปัญญาวุฑโฒ



Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: