วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2564

ผลเสียและโทษของ“ความเป็นคนมักโกรธ”


 
ผลเสียและโทษของ“ความเป็นคนมักโกรธ”

..“สอนตนเองให้นึกว่า พระพุทธเจ้าของเราทรงมีพระมหากรุณาธิคุณและทรงสอนชาวพุทธให้เป็นคนมีเมตตา เรามัวมาโกรธอยู่ ไม่ระงับความโกรธเสีย เป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ ไม่ทำตามอย่างพระศาสดา ไม่สมกับเป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้า จงรีบทำตัวให้สมกับที่เป็นศิษย์ของพระองค์ และจงเป็นชาวพุทธที่ดี

..พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า คนที่โกรธเขาก่อน ก็นับว่าเลวอยู่แล้ว คนที่ไม่มีสติรู้เท่าทัน หลงโกรธตอบเขาไปอีก ก็เท่ากับสร้างความเลวให้ยืดยาวเพิ่มมากขึ้น นับว่าเลวหนักลงไปกว่าคนที่โกรธก่อนนั้นอีก เราอย่าเป็นทั้งคนเลวทั้งคนเลวกว่านั้นเลย  ..พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนต่อไปอีกว่า เขาโกรธมา เราไม่โกรธตอบไป อย่างนี้เรียกว่า “ชนะสงครามที่ชนะได้ยาก” เมื่อรู้ทันว่าคนอื่นหรืออีกฝ่ายหนึ่งเขาขุ่นเคืองขึ้นมาแล้ว เรามีสติระงับใจไว้เสีย ไม่เคืองตอบ จะชื่อว่าเป็นผู้ทำประโยชน์ให้แก่ทั้งสองฝ่าย คือ ช่วยไว้ทั้งเขาและทั้งตัวเราเอง เพราะฉะนั้น เราอย่าทำตัวเป็นผู้แพ้สงครามเลย จงเป็นผู้ชนะสงคราม และเป็นผู้สร้างประโยชน์เถิด อย่าเป็นผู้สร้างความพินาศวอดวายเลย ( สํ.ส. ๑๕/๘๗๕/๓๒๕ )

..มีพุทธพจน์ตรัสสอนไว้มากมาย เช่นว่า ..“คนขี้โกรธจะมีผิวพรรณไม่งาม คนขี้โกรธนอนก็เป็นทุกข์ ฯลฯ คนโกรธไม่รู้เท่าทันว่า ความโกรธนั้นแหละ คือภัยที่เกิดขึ้นข้างในตัวเอง  .. “พอโกรธเข้าแล้วก็ไม่รู้จักว่าอะไรเป็นประโยชน์ โกรธเข้าแล้วมองไม่เห็นธรรม เวลาถูกความโกรธครอบงำ มีแต่ความมืดตื้อ คนโกรธจะผลาญสิ่งใด สิ่งนั้นทำยากก็เหมือนทำง่าย แต่ภายหลังพอหายโกรธแล้ว ต้องเดือดร้อนใจเหมือนถูกไฟเผา”

..“แรกจะโกรธนั้น ก็แสดงความหน้าด้านออกมาก่อนเหมือนมีควันก่อนจะเกิดไฟ พอความโกรธแสดงเดชทำให้คนดาลเดือดได้ คราวนี้ละไม่มีกลัวอะไร ยางอายก็ไม่มี ถ้อยคำ ไม่มีคารวะ ฯลฯ

.. “คนโกรธฆ่าพ่อฆ่าแม่ของตัวเองก็ได้ ฆ่าพระอรหันต์ ฆ่าคนสามัญก็ได้ทั้งนั้น ลูกที่แม่เลี้ยงไว้จนได้ลืมตามองดูโลกนี้ แต่มีกิเลสหนา พอโกรธขึ้นมาก็ฆ่าได้แม้แต่แม่ผู้ให้ชีวิตนั้น ฯลฯ” ( องฺ.สตฺตก. ๒๓/๖๑/๙๘ )

..“กาลีใดไม่มีเท่าโทสะ ฯลฯ เคราะห์อะไรเท่าโทสะไม่มี” ( ขุ.ธ. ๒๕/๒๕/๔๒;๒๘/๔๘ )

..ความโกรธมีโทษก่อผลร้ายให้มากมาย อย่างพุทธพจน์นี้เป็นตัวอย่าง แม้เรื่องราวในนิทานต่างๆ และชีวิตจริงก็มีมากมาย ล้วนแสดงให้เห็นว่าความโกรธมีแต่ทำให้เกิดความเสียหายและความพินาศ ไม่มีผลดีอะไรเลย จึงควรฆ่ามันทิ้งเสีย อย่าเก็บเอาไว้เลย

.. ฆ่าอะไรอื่นแล้วอาจจะต้องมานอนเป็นทุกข์ ฆ่าอะไรอื่นแล้วอาจจะต้องโศกเศร้าเสียใจ แต่ “ฆ่าความโกรธแล้วนอนเป็นสุข ฆ่าความโกรธแล้วไม่โศกเศร้าเลย” ( สํ.ส. ๑๕/๑๙๙/๕๗ )

..พิจารณาโทษของความโกรธทำนองนี้แล้ว ก็น่าจะบรรเทาความโกรธได้”

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( ป. อ. ปยุตฺโต ) , ที่มา : ธรรมนิพนธ์ “ทำอย่างไรจะหายโกรธ , ธรรมะเพื่อทางพ้นทุกข์ โดย ท. ส. ปัญญาวุฑโฒ


post written by:

Related Posts

  • "มันเป็นของกลาง" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)"มันเป็นของกลาง"".. ธรรมแท้ที่พระองค์ทรงสอนนั้นมิได้สอนอื่น "แท้จริงก็คือสอนให้เห็นแลเข้าใจชัดแจ้งในเรื่องความเป็นอยู่แลเป็นไปของโลกนั้นเอง" จึงจะหายกังวลสงสัยพ… Continue Reading
  • "ใจเศร้าหมองกับใจหดหู่" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)"ใจเศร้าหมองกับใจหดหู่"".. "ใจหดหู่" นั้นมันสลดสังเวช แล้วมันคิดถึงตัวของเราจะต้องเป็นอย่างนั้นแล้วมันหดหู่ลงไป "ส่วนใจเศร้าหมอง" นั้นคิดถึงเรื่องความแก่ ความตา… Continue Reading
  • สมณกรณียธรรม ๒๐ ประการสมณกรณียธรรม ๒๐ ประการ1. เสฏฺฐภูมิสโย ตั้งอยู่ในภูมิอันประเสริฐ (ประกอบด้วยความกรุณาแลความสัตย์  เป็นต้น) 2. อคฺเค นิยโม     นิยมในกิจอันเลิ… Continue Reading
  • "กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ”"กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ” อันมีเนื้อ ความดังนี้คุณธรรมทั้ง ๑๐ ประการนี้ คนทุกคนจำเป็นต้องฝึกให้มีในตน โดยเฉพาะผู้นำ ผู้ที่จะบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม จะต้องฝึก… Continue Reading
  • ความเป็นผู้ฉลาด จะรู้ได้อย่างไร ?ความเป็นผู้ฉลาด จะรู้ได้อย่างไร ?บุคคลใดเป็นคนฉลาดหรือไม่ฉลาดให้กำหนดรู้ด้วยอุบายดังต่อไปนี้ บุคคลนั้นต้องรู้อุบายอันเป็นเหตุแห่งความเจริญและไม่เจริญ.  ควา… Continue Reading

0 comments: