ปัจจัยที่ทำให้เกิด “สัมมาทิฏฐิ”
…. “ สัมมาทิฏฐิ เป็นองค์ประกอบสําคัญของ “มรรค” ในฐานะที่เป็นจุดเริ่มต้นในการปฏิบัติธรรม หรือพูดตามแนวไตรสิกขาว่าเป็นขั้นเริ่มแรกในระบบการศึกษาแบบพุทธ และเป็นธรรมที่ต้องพัฒนาให้บริสุทธิ์ แจ้งชัด เป็นอิสระมากขึ้นตามลําดับ จนกลายเป็นการตรัสรู้ในที่สุด ดังกล่าวมาแล้ว ดังนั้นการสร้างเสริมสัมมาทิฏฐิจึงเป็นสิ่งสําคัญยิ่ง
…. มีพุทธพจน์แสดงหลักการสร้างเสริมสัมมาทิฏฐิไว้ดังนี้ :- “ภิกษุทั้งหลาย ปัจจัยเพื่อความเกิดขึ้นแห่งสัมมาทิฏฐิ มี ๒ อย่าง ดังนี้ คือ ปรโตโฆสะ และ โยนิโสมนสิการ”
…. ๑. ปรโตโฆสะ = “เสียงจากผู้อื่น” คําบอกเล่า ข่าวสาร คําชี้แจง อธิบาย การแนะนําชักจูง การสั่งสอน การถ่ายทอด การได้เรียนรู้จากผู้อื่น ( hearing or learning from others )
…. ๒. โยนิโสมนสิการ = “การทําในใจโดยแยบคาย” การพิจารณาสืบค้น ถึงต้นเค้า การใช้ความคิดสืบสาวตลอดสาย การคิดอย่างมีระเบียบ การรู้จักคิดพิจารณาด้วยอุบาย การคิดแยกแยะออกดูตามสภาวะของสิ่งนั้นๆ โดยไม่เอาความรู้สึกด้วยตัณหาอุปาทานของตนเข้าจับ ( analytical reflection, critical reflection, systematic attention )
…. ปัจจัยทั้งสองอย่างนี้ ย่อมสนับสนุนซึ่งกันและกัน
…. สําหรับคนสามัญซึ่งมีปัญญาไม่แก่กล้า ย่อมอาศัยการแนะนําชักจูงจากผู้อื่น และคล้อยไปตามคําแนะนําชักจูงที่ฉลาดได้ง่าย แต่ก็จะต้องฝึกหัดให้สามารถใช้ความคิดอย่างถูกวิธีด้วยตนเองได้ด้วย จึงจะก้าวหน้าไปถึงที่สุดได้ ส่วนคนที่มีปัญญาแก่กล้า ย่อมรู้จักใช้โยนิโสมนสิการได้ดีกว่า แต่กระนั้นก็อาจต้องอาศัยคําแนะนําที่ถูกต้องเป็นเครื่องนําทางในเบื้องต้น และ เป็นเครื่องช่วยส่งเสริมให้ก้าวหน้าไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้นในระหว่างการฝึกอบรม
…. การสร้างเสริมสัมมาทิฏฐิด้วยปัจจัยอย่างที่ ๑ (ปรโตโฆสะ) ก็คือ วิธีการที่เริ่มต้นด้วยศรัทธา และอาศัยศรัทธาเป็นสําคัญ เมื่อนํามาใช้ปฏิบัติในระบบการศึกษาอบรม จึงต้องพิจารณาที่จะให้ได้รับการแนะนําชักจูงสั่งสอนอบรมที่ได้ผลดีที่สุด คือ ต้องมีผู้สั่งสอนอบรมที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติ มีความสามารถ และใช้วิธีการอบรมสั่งสอนที่ได้ผล ดังนั้น ในระบบการศึกษาอบรม จึงจํากัดให้ได้ปรโตโฆสะที่มุ่งหมายด้วยหลักที่เรียกว่า “กัลยาณมิตตตา” คือ ความมีกัลยาณมิตร
…. ส่วนปัจจัยอย่างที่ ๒ (โยนิโสมนสิการ) เป็นแกนหรือองค์ประกอบหลักของการพัฒนาปัญญา ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าควรใช้ความคิดให้ถูกต้องอย่างไร
…. เมื่อนําปัจจัยทั้งสองมาประกอบกัน นับว่า… …. กัลยาณมิตตตา (=ปรโตโฆสะที่ดี) เป็นองค์ประกอบภายนอก และ …. โยนิโสมนสิการ เป็นองค์ประกอบภายใน …. ถ้าตรงข้ามจากนี้ คือ ได้ผู้ไม่เป็นกัลยาณมิตร ทําให้ประสบปรโตโฆสะที่ผิดพลาด และใช้ความคิดผิดวิธี เป็น อโยนิโสมนสิการ ก็จะได้รับผลตรงข้าม คือ เป็น มิจฉาทิฏฐิ ไปได้” -สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( ป. อ. ปยุตฺโต )
ที่มา : จากหนังสือ “พุทธธรรม ฉบับเดิม” หน้า ๒๖๒-๒๖๔ , ธรรมะเพื่อทางพ้นทุกข์ โดย ท. ส. ปัญญาวุฑโฒ
0 comments: