อกุศลวิตกนี้เป็นของเลว เป็นอกุศล เป็นสิ่งมีโทษ ย่อมเป็นไปเพื่อเบียดเบียนตน
ถ้ากำลังยืน หรือเดิน หรือนั่ง หรือนอนอยู่ก็ตาม มีอกุศลวิตก (ความตรึกที่เป็นอกุศล, ความนึกคิดที่ไม่ดี) เกิดขึ้นในจิตใจ หากยังไม่รีบละหรือไม่รีบบรรเทาความตรึกที่เป็นอกุศลนั้นเสีย ก็ถือว่ายังมีความเพียรย่อหย่อน ส่วนผู้สามารถละได้บรรเทาได้ ถือว่าเป็นผู้มีความเพียรติดต่อ และสามารถบรรลุโพธิญาณอันสูงสุดได้
อธิบายความ
อกุศลวิตก คือความตรึกที่เป็นอกุศลมี ๓ อย่างคือ ๑. กามวิตก ความตรึกในทางกาม หรือความนึกคิดในทางพัวพันติดข้องอยู่กับวัตถุกามสิ่งที่สนองความอยาก ๒. พยาบาทวิตก ความตรึกในทางพยาบาท ที่มีความอาฆาตเป็นเครื่องหมาย ๓. วิหิงสาวิตก ความตรึกในทางเบียดเบียน ด้วยอำนาจแห่งการเบียดเบียนทำร้ายผู้อื่นด้วยอาวุธต่างๆ เป็นต้น
เมื่ออกุศลวิตกเหล่านี้เกิดขึ้นในจิตใจแล้ว หากไม่มีการพิจารณาว่า “อกุศลวิตกนี้เป็นของเลว เป็นอกุศล เป็นสิ่งมีโทษ ย่อมเป็นไปเพื่อเบียดเบียนตน” และเมื่อให้มันพักอาศัยอยู่ ไม่สลัดออกไป ด้วยอำนาจแห่งการละเป็นต้น ก็ถือว่ายังมีความเพียรย่อหย่อน เพราะว่า เมื่อสลัดออกไม่ได้ ก็จะบรรเทาไม่ได้ กำจัดออกไปจากจิตสันดานไม่ได้ จะทำให้สูญสิ้นไปไม่ได้
ส่วนผู้มีความเพียรส่งใจไปพิจารณาให้เห็นโทษในอกุศลวิตกแล้ว ไม่อาลัยในชีวิต มีความสะดุ้งกลัวต่อบาปโดยประการทั้งปวง ก็จะทำความเพียรติดต่อเพื่อละอกุศลวิตกเหล่านั้นให้ได้ และเป็นผู้ควรบรรลุโพธิญาณอันสูงสุดได้ ดังนี้.
สาระธรรมจากจรสูตร
พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ)
6/8/64
0 comments: