วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2564

โลกนี้มีแต่ “ค น บ ้ า” โลก ข อ ง ค น บ ้า ขยายกว้างมากขึ้น

โลกนี้มีแต่ “ค  น  บ    ้ า” โลกของ ค น  บ  ้า  ขยายกว้างมากขึ้น

ระวังให้ดี, วิทยฐานะหรือปริญญาอะไรที่มันเพิ่มมากขึ้นนั้น ต้องดูให้ดีๆว่ามันช่วยให้ บ   ้  ามากขึ้น หรือช่วยให้  บ  ้ า น้อยลง นี้เราลองมองดูกันในแง่นี้บ้าง

เท่าที่มองมาแล้ว สังเกตเห็นมาแล้ว รู้สึกว่าปริญญาหรือวิทยฐานะหรือปริญญาอะไรของโลก, โลกๆ ชาวโลกสมัยนี้ ที่เขามีๆกัน, สอบไล่ได้แล้วให้ๆกันนี้, ล้วนแต่เป็นปริญญาที่ทํา ใ ห้   บ   ้ า  มากขึ้นเท่านั้น ที่ทําให้  บ   ้ า  ม า ก ขึ้นทั้งนั้น

เพราะว่าการศึกษาหรือการค้นคว้าหรือความต้องการของโลกในสมัยปัจจุบันนี้เป็นไปแต่ในทางวัตถุ, เป็นไปแต่ในทางให้ ลุ่ ม ห ล งใน อ า ร ม ณ์ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ มากขึ้น เป็นไปเพื่อความอยากใหญ่ เพื่อสะสมกิเลส เพื่อกํา ห นั ด ย้ อ ม ใ จ เพื่อเลี้ยงยาก เพื่อขี้เกียจ ในการที่จะชําระชะล้างกิเลส แล้วขยันในการที่จะตามใจของตัว อย่างนี้ทั้งนั้น มากขึ้น

เมื่อโลกมีความต้องการอย่างนี้ เขาก็นิยมส่งเสริมให้การศึกษากันแต่เพื่อให้ได้อย่างนี้ แล้วคนก็ยินดี เพราะว่ามันสนุก, เพราะว่ามันเอร็ดอร่อย ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ. ขยันเรียนให้ได้มาเป็นวิทยฐานะ เป็นปริญญาแขนงใดแขนงหนึ่ง ล้วนแต่เพื่อวัตถุนิยม ในที่สุดมันก็เป็น  บ   ้  า  มากขึ้นกว่าแต่ก่อน พูดให้ตรงให้ชัดก็ว่า ก่อนจะไปเรียนเมืองนอกยัง  บ  ้ า  น้อย พอไปเรียนเมืองนอกกลับมาก็ยิ่ ง  บ  ้ า ใหญ่ เพราะไปเอาอะไรๆที่ทําให้  ห  ล  ง ใ ห ล ในทางวัตถุนิยมนั้นมามากขึ้น

นี่ความพ่ายแพ้ได้เกิดขึ้นแล้วแก่จิตใจของพุทธบริษัท ที่เมื่อก่อนยังไม่เคยพ่ายแพ้ เดี๋ยวนี้มันก็พ่ายแพ้มากขึ้น คือพ่ายแพ้อํานาจของวัตถุนิยม ที่คนเขาส่งเสริมกันมากขึ้น ปรับปรุงกันมากขึ้น นิยมกันมากขึ้น นี่แปลว่าเราอยู่ในฐานะที่ค่อนข้างเคราะห์ ร้ า ย, คือต้องเกิดมา, หรือว่าต้องอยู่ ต้องเป็นอยู่ในท่ามกลางหมู่คนบ้าที่  บ  ้  า  ม า กขึ้น ฉะนั้น ก็ยากเหมือนกันที่เราจะปลีกตัวออกมาได้  เรียกว่ามันเป็นปัญหาที่เพิ่มมากขึ้น เป็นบทเรียนที่ยากยิ่งขึ้น เพราะว่าโลกทุกวันนี้มันเป็นโลกของ ค น  บ   ้ า  มากขึ้น

อาการแห่งควา ม  บ   ้ า มันมีมากขึ้น ไม่เหมือนกับโลกสมัยก่อน ซึ่งมันเป็น  บ  ้ าน้อยกว่า เย็นกว่า สงบกว่า ยิ่งกว่าหรือหยุดกว่า เดี๋ยวนี้มันเป็นโลกที่ เ ร่ า ร้ อ น เดือ ดพ ล่ า น วิ่งว่อนไปด้วยความอยาก ความ กระหายของ สั ต ว์  ที่ บ   ้ า  ค  ลั่  ง ด้วยอํานาจความเป็นบ่ า ว เป็น ท า ส ของ  อ า ร ม  ณ์ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ นั่นเอง

สรุปความแล้วก็เรียกว่า โลกทุกวันนี้มันเป็นโลกของคนบ้ามากขึ้นกว่าที่แล้วมาตามปกติ ถ้าเรียกว่าโลกแล้วมันก็เป็นค น  บ   ้  า อยู่แล้ว เพราะว่าหลงใหลในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ ซึ่งเรียกว่า “โลก” ถ้าอยู่ในโลกก็เป็นคน  บ  ้  าอยู่แล้ว

เดี๋ยวนี้คน บ   ้ า ในโลกนี้ขยายๆปรับปรุงหรือว่าขยายรสชาติน้ำหนักของรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ นี่ให้มากขึ้น ๆๆ  ความเป็นโลกมันก็จัด, เป็นโลกจัดมากขึ้น ทีนี้คนที่อยู่ในโลกก็เป็นคน  บ  ้ า  มากขึ้น นี้มันเป็นเหตุผลที่พอ, ที่เพียงพอแล้ว, ที่ไม่น่าจะสงสัยอะไรกันอีกแล้ว ที่จะพูดว่าคนในโลกนี้กําลังเป็น “คน บ   ้ า” ที่รุนแรงกว่าแต่ก่อนมากขึ้น ทําให้โลกนี้เป็นโลกที่ บ  ้  า เป็นโลกของคน บ   ้ า มากขึ้น

นี้เป็นหัวข้อสําคัญที่เสนอแก่ท่านทั้งหลายต่อไป หลังจากที่ได้บอกให้รู้ว่าเราเป็นคน  บ   ้ า,, แล้วก็บอกให้รู้ว่าทั้งโลกก็เป็นคน บ   ้ าเป็นโลกของคน  บ   ้ า, แล้วโลกทุกวันนี้เป็นโลกของคน  บ   ้ า ที่มาก ที่จัด หรือที่รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก ตามความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าของคนในโลก ซึ่งเขาเรียกตัวเองว่า “นักศึกษา”, ที่เขาเรียกว่านักศึกษา, คนในโลกยิ่งเป็นนักศึกษาของโลกมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเป็นคน  บ   ้ า มากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าเขาเป็นนักศึกษาของพระพุทธเจ้าหรือของธรรมะมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเป็นคน   บ   ้   า  น้อยลงเท่านั้น

ฟังดูให้ดีๆ จนถึงกับรู้จักแยกออกจากกัน ว่าเป็นนักศึกษาของคนในโลกตามประสาโลก อย่างชาวโลกสมัยนี้มากขึ้นเท่าไร ก็เป็นคน  บ   ้ า มากขึ้นเท่านั้น ถ้าเป็นนักศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นต้น หรือของพระศาสดาในศาสนาไหนก็ได้มากขึ้นเท่าไร ก็เป็นคน  บ   ้ า  น้อยลงเท่านั้น, จนกระทั่งหา ย  บ   ้ า และไม่เป็นคน บ   ้ า เลย

นี้ทําไมพูดว่า นักศึกษาของโลกในสมัยปัจจุบันนี้ มีแต่เป็นคน  บ   ้ า  มากขึ้น? ก็เพราะเหตุผลอย่างที่กล่าวมาแล้วว่า ศึกษากันแต่ในเรื่องทางวัตถุ แล้วศึกษาไปในลักษณะที่ทําให้ตัวเอง โ   ง่  ห ล งในรสอร่อยของวัตถุนั้นมากยิ่งขึ้นไป. เมื่อก่อนนี้วัตถุไม่เป็นที่ ยั่   ว  ย  ว  น   เ ย้ า ย ว น  อะไรมากนัก  เดี๋ยวนี้คนมีสติปัญญาแก้ไขปรับปรุงให้วัตถุต่างๆในโลกนี้ มีควา ม  ยั่ ว ย ว น มากขึ้นๆ มากมายหลายร้อยหลายพันเท่า, เพื่อ  ย ว น ตา  ย ว น ใจ, ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี่ ให้มันมากขึ้น ให้ไม่รู้จักเบื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเนื้อหนัง ทางโผฏฐัพพะ ทา ง อ า ร ม ณ์ ทาง เ นื้ อ ห นั ง ไม่ให้รู้จักเบื่อทั้งวันทั้งคืน. นี่มันอยาก มัน ก ร ะ ห า ย  จนเวลาวันหนึ่งคืนหนึ่งมีไม่มากพอ ไม่ยาวพอ ที่จะไป  ดื่  ม ไป กิ น อ า ร ม ณ์เหล่านั้น”

พุทธทาสภิกขุ

ที่มา : ธรรมบรรยายชุดชุมนุมล้ออายุ หัวข้อเรื่อง “โลกนี้มี แ ต่ ค น บ   ้ า” เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๑๑ บนเขาพุทธทอง กัณฑ์เช้า จากหนังสือชุดธรรมโฆษณ์ เล่มชื่อว่า “ชุมนุมล้ออายุ เล่ม๑” หน้า ๒๓๓-๒๓๖


Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: