ให้มีใจสงบเย็นอยู่เสมอแม้จะมีสิ่งที่ไม่น่าพอใจมากระทบ
[ณ วิหารเชตวัน ใกล้นครสาวัตถี พระโมลิยผัคคุนะมักคลุกคลีอยู่กับเหล่าภิกษุณี ซึ่งเมื่อถูกเพื่อนภิกษุติเตียนก็จะโกรธ ไม่พอใจ โดยภิกษุรูปหนึ่งได้เล่าเรื่องนี้ให้พระพุทธเจ้าฟัง พระพุทธเจ้าจึงเรียกพระโมลิยผัคคุนะมาพบ แล้วถามว่า]
พ: ผัคคุนะ เธออยู่คลุกคลีกับเหล่าภิกษุณีจริงหรือ? ผ: จริงท่าน. พ: เธอออกบวชด้วยศรัทธาไม่ใช่หรือ? ผ: ใช่ท่าน. พ: การคลุกคลีกับเหล่าภิกษุณีจนเกินขอบเขต เป็นเรื่องที่ไม่สมควรกับผู้ที่บวชด้วยศรัทธาเลย และถ้าเธอถูกติเตียน เธอก็ควรตระหนักว่า จิตของเธอจะไม่ปั่นป่วน ไม่ตอบโต้ด่ากลับ ไม่เกิดโทสะ ควรมีจิตที่เมตตา ถ้าใครมาทำร้ายเธอด้วยฝ่ามือ ก้อนหิน ท่อนไม้ หรืออาวุธใดๆ เธอก็ควรตระหนักเช่นกันว่า จิตของเธอจะไม่ปั่นป่วน ไม่ตอบโต้ด่ากลับ ไม่เกิดโทสะ ควรมีจิตที่เมตตา
[หลังจากนั้น พระพุทธเจ้าได้เรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วกล่าวว่า]
พ: เรื่องเคยมีมาแล้ว ที่นครสาวัตถีนี้เอง มีแม่บ้านคนหนึ่งชื่อเวเทหิกา คนชมกันว่าเป็นคนสงบเสงี่ยมใจเย็น ซึ่งแม่บ้านคนนี้มีทาสีชื่อกาลี นางกาลีเกิดคิดขึ้นมาว่า นายหญิงของเรานี้เป็นคนเก็บความโกรธไว้ ไม่แสดงออก หรือเป็นคนที่ไม่มีความโกรธกันแน่ หรือว่าจริงๆแล้วที่ไม่โกรธ เพราะเราทำงานเรียบร้อยดี เลยไม่มีอะไรให้โกรธ อย่ากระนั้นเลย เราจะทดสอบนายหญิงดู
วันรุ่งขึ้น นางกาลีแกล้งตื่นสาย นางเวเทหิกาก็ตวาดนางกาลีว่า เฮ้ย นางกาลี ทำไมเอ็งตื่นสาย พอนางกาลีตอบว่า ไม่ได้เป็นอะไรนายหญิง นางเวเทหิกาก็พูดต่อว่า อีคนชั่ว เมื่อไม่เป็นอะไร แล้วทำไมถึงตื่นสาย นางกาลีจึงคิดว่า จริงๆแล้วนายหญิงไม่ใช่ไม่มีความโกรธ เพียงแต่ไม่มีอะไรมาทำให้โกรธเท่านั้นเอง วันต่อๆมา นางกาลีก็ลองอีก จนนางเวเทหิกาทนไม่ไหว คว้าลิ่มประตูปาใส่หัวนางกาลีจนเลือดออก ผู้คนเห็นเข้าต่างก็พูดกันว่า จริงๆแล้วนางเวเทหิกาเป็นคนใจร้อนดุร้ายนี่เอง ภิกษุบางรูปก็เป็นเช่นนี้ ดูเป็นคนสงบใจเย็นก็แค่ชั่วเวลาที่ไม่มีเรื่องไม่พอใจมากระทบเท่านั้น
เมื่อใดที่เธอยังสงบใจเย็นอยู่ได้เวลามีอะไรไม่น่าพอใจมากระทบ เมื่อนั้นแลเธอจึงได้ชื่อว่าเป็นคนสงบใจเย็นจริง แม้ใครจะพูดอะไรในเวลาที่เหมาะหรือไม่เหมาะ เป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง ด้วยวาจาที่อ่อนหวานหรือหยาบคาย มีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ ด้วยจิตใจที่เมตตาหรือมีโทสะก็ตาม พวกเธอพึงตระหนักว่า จิตของเราจะไม่ปั่นป่วน ไม่ตอบโต้ด่ากลับ ไม่เกิดโทสะ เราจะแผ่เมตตาไปถึงเขา ไม่ผูกใจเจ็บ และแผ่ไปทุกทิศทางอย่างกว้างขวางอันหาประมาณไม่ได้ เปรียบดังคนเอาสีมา หวังจะวาดรูปในอากาศ ก็ไม่มีวันวาดได้ เปรียบดังคนถือคบหญ้าจุดไฟมา หวังจะทำแม่น้ำคงคาให้ร้อนจัด ก็ไม่มีวันร้อนได้
ภิกษุทั้งหลาย หากมีพวกโจรต่ำช้าเอาเลื่อยมาเลื่อยอวัยวะต่างๆของเธอ แล้วเธอมีใจคิดร้ายต่อโจรนั้น เธอจะไม่ได้ชื่อว่าทำตามคำสอนของเรา เพราะเธออดกลั้นไม่ได้ พวกเธอจงใส่ใจถึงคำสอนอันเปรียบด้วยเลื่อยนี้เป็นประจำเถิด จะเกิดประโยชน์และความสุขแก่เธอตลอดไป.
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 18 (พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ ภาค 1 เล่ม 2 กกจูปมสูตร ข้อ 263), 2559, น.240-250
0 comments: