วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2564

เวริชาตกํ - การอยู่ร่วมกับมีเวรกัน

เวริชาตกํ - การอยู่ร่วมกับมีเวรกัน

"ยตฺถ  เวรี  นิวิสติ,               น  วเส  ตตฺถ  ปณฺฑิโต;

เอกรตฺตํ  ทิรตฺตํ  วา,          ทุกฺขํ  วสติ  เวริสูติ ฯ

คนมีเวรกันอยู่ในที่ใด บัณฑิตไม่ควรอยู่ในที่นั้น, เพราะเมื่ออยู่ในพวกคนมีเวรกันคืนเดียว หรือสองคืน ก็อยู่เป็นทุกข์."

เวริชาดกอรรถกกถา

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารทรงปรารภท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ตรัสพระธรรมเทศนานี้มีคำเริ่มต้นว่า  ยตฺถ  เวรี  นิวีสติ  ดังนี้.

ได้ยินว่า ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ไปสู่หมู่บ้านส่วยแล้วกำลังเดินมา พบพวกโจรในระหว่างทาง คิดว่า „ไม่ควรพักแรมในระหว่างทาง ต้องไปให้ถึงพระนครสาวัตถีทีเดียว“ แล้วขับฝูงโคมาถึงพระนครสาวัตถีโดยรวดเร็ว รุ่งขึ้นไปสู่พระวิหารกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระศาสดาพระศาสดาตรัสว่า „ดูก่อนคฤหบดี แม้ในปางก่อน บัณฑิตพบโจรในระหว่างทาง ไม่ค้างแรมในระหว่างทาง ไปจนถึงที่อยู่ของตนทีเดียว“ ท่านอนาถบิณฑิกะกราบทูลอาราธนาทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี  พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นเศรษฐี มีสมบัติมาก ไปสู่ที่รับเชิญในหมู่บ้าน เพื่อการบริโภค เมื่อเดินทางกลับ พบพวกโจรในระหว่างทาง ไม่หยุดในระหว่างทางเลยรีบขับโคทั้งหลาย มาสู่เรือนของตนทีเดียว บริโภคอาหารด้วยรสอันเลิศ นั่งเหนือที่นอนอันมีราคามาก ดำริว่า „เราพ้นจากเงื้อมมือโจร มาสู่เรือนตนอันเป็นที่ปลอดภัย“ แล้วกล่าวคาถานี้ด้วยสามารถแห่งอุทานว่า :-  „ไพรีอาศัยอยู่ในที่ใด บัณฑิตไม่พึงอยู่ ในที่นั้น, บุคคลอยู่ในพวกไพรี คืนหนึ่งหรือ สองคืน ย่อมอยู่เป็นทุกข์.“ 

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า  เวรี  ได้แก่ บุคคลผู้เพียบพร้อมด้วยเจตนาคิดก่อเวร.  บทว่า  นิวีสติ  แปลว่า ย่อมพำนักอยู่.  บทว่า  น  วเส  ตตฺถ  ปณฺฑิโต  ความว่า บุคคลผู้เป็นไพรีนั้นพำนัก คืออาศัยอยู่ในที่ใด บัณฑิตคือท่านผู้ประกอบด้วยคุณเครื่องความเป็นบัณฑิต ไม่ควรอยู่ในที่นั้น.  เพราะเหตุไร ? เพราะบุคคลอยู่ในกลุ่มไพรี คืนหนึ่งหรือสองคืน ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ขยาย ความว่า บุคคลเมื่ออยู่ในกลุ่มของไพรี แม้วันเดียวสองวัน ก็ชื่อว่าอยู่เป็นทุกข์ทั้งนั้น.

พระโพธิสัตว์เปล่งอุทานด้วยประการฉะนี้ กระทำบุญมีให้ทานเป็นต้นแล้วไปตามยถากรรม.

พระศาสดา ทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้วทรงประชุมชาดกว่า ในครั้งนั้น เราตถาคตแลได้เป็นเศรษฐีเมืองพาราณสีฉะนี้แล. 

ที่มา : Palipage : Guide to Language - Pali



Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: