สภาพธรรมที่ทำให้มีกิริยากระด้างขึ้น ไม่สุภาพนุ่มนวล คือทิฏฐิมานะ
ทิฏฐิคือความเห็นผิด เป็นการยึดมั่นถือมั่นด้วยปัญญาหามิได้ มักไม่เชื่อในเหตุผล จึงทำให้เกิดความเห็นผิด และไม่ต้องการแม้แต่จะได้พบเห็นพระอริยะเจ้า เพราะจิตของเขาไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ตั้งอยู่ ไม่น้อมไปในธรรมที่พระอริยะเจ้าทรงแสดงเพื่อความดับภพชาติ
ส่วนมานะคือความถือตัวทะนงตน จึงทำให้เกิดการยกย่องตน ดูหมิ่นท่าน แข่งดี หัวดื้อ โอ้อวด และเป็นผู้มีความปรารถนาสูง เพราะชอบเปรียบเทียบตนกับผู้อื่นด้วยชาติ โคตร สกุล รูป สมบัติ ทรัพย์ ศิลปะวิทยา การงาน หรือความเฉลียวฉลาดเป็นต้น
ส่วนการใช้ปัญญาพิจารณาเห็นความเป็นสัตว์ตามความเป็นจริง เป็นคนไม่มักโกรธ ไม่ผูกโกรธ ไม่ลบหลู่คุณท่าน มีปัญญา ปฏิบัติเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับความเป็นสัตว์ และการประพฤติถ่อมตนนำความกระด้างออก เป็นผู้เสมอด้วยผ้าเช็ดเท้า เป็นผู้เสมอด้วยโคเขาขาด และเป็นผู้เสมอด้วยงูที่ถูกถอนเขี้ยวเสียแล้ว เป็นผู้มีวาจาอ่อนหวานไพเราะและเสนาะโสต พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “เป็นมงคล” เพราะเป็นเหตุให้จิตอ่อนโยน และเป็นผลให้ไม่มีความโกรธ ไม่มีความอาฆาตกับใครๆ
สาระธรรมจากมงคลสูตร (นิวาตกถา)
พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ)
26/6/64
0 comments: