วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2564

สิ่งที่อาศัยยึดเป็นหลักการสร้างในชีวิตของเราก็คือความดี

สิ่งที่อาศัยยึดเป็นหลักการสร้างในชีวิตของเราก็คือความดี  

เพราะความดีเป็นที่พึ่งของเราทั้งในโลกนี้และโลกหน้าไปจนถึงพระนิพพานเป็นที่สุด ฉะนั้นพระนิพพานจึงเปรียบประดุจเกาะที่ห้วงน้ำคือกิเลสไม่สามารถท่วมได้ และเราจะบรรลุพระนิพพานได้ก็ด้วยการทำความดี เหมือนคนสร้างเกาะเป็นที่อาศัยอยู่ฉะนั้น

แต่ความดีที่เรียกว่า “บุญบารมี” นั้นต้องสร้างด้วยธรรมที่เป็นเหตุ ๔ ประการคือ

๑. ด้วยความขยันหมั่นเพียร หมายถึงความพยายามในการทำความดีหรือทำหน้าที่ของตนเองอย่างแข็งขัน ด้วยความมุ่งมั่นเอาใจใส่อย่างจริงจัง และไม่ท้อแท้ต่อความยากลำบาก

๒. ด้วยความไม่ประมาท หมายถึงการมีสติรู้สึกตัวอยู่เสมอ ในทุกเรื่องที่คิด ในทุกกิจที่ทำ ในทุกคำที่พูด ในทุกครั้งที่เคลื่อนไหวเป็นต้น นั่นแหละคือการมีสติ และการมีสติก็คือการตั้งอยู่ในความไม่ประมาท

๓. ด้วยความสำรวม หมายถึงการระมัดระวังตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ทำใจให้แน่วแน่ ทำใจให้สงบ เมื่อใจสงบ กายก็สงบจากการเบียดเบียนตนและผู้อื่น

๔. ด้วยความฝึก หมายถึงการฝึกอินทรีย์ เจริญสัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ อันให้ความสงบและให้ถึงความตรัสรู้ได้   ดังพระพุทธพจน์ว่า

"อุฏฺฐาเนนปฺปมาเทน      สญฺญเมน ทเมน จ

ทีปํ กยิราถ เมธาวี          ยํ โอโฆ นาภิกีรตีติ ฯ

“คนมีปัญญาพึงสร้างเกาะที่น้ำหลากมาท่วมไม่ได้ ด้วยความหมั่น ด้วยความไม่ประมาท ด้วยความสำรวม และด้วยความข่มใจ” ดังนี้ ฯ

สาระธรรมจากธรรมบทภาค ๒ (เรื่องพระจูฬปันถกเถระ)

พระมหาวัชระ  เชยรัมย์  (ติกฺขญาโณ)

15/6/64


Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: