จิตจะมั่นคงได้ก็ด้วยศรัทธาและปัญญา
จิตของบุคคลใดไม่มีความแน่นอนหรือไม่มั่นคง เพราะไม่รู้พระสัทธรรมประการหนึ่ง เพราะมีความเลื่อมใสอันเลื่อนลอยซึ่งเกิดจากเป็นผู้มีศรัทธาน้อยหรือเป็นผู้มีศรัทธาคลอนแคลนประการหนึ่ง บุคคลนั้นไม่ว่าจะดำรงอยู่ในฐานะอะไรๆก็เหมือนกับหลักที่ปักไว้ในกองแกลบ บุคคลเห็นปานนี้ชื่อว่ามีจิตไม่มั่นคง เมื่อจิตใจไม่มั่นคงปัญญาก็ย่อมไม่บริบูรณ์ ดังพระพุทธพจน์ว่า
อนวฏฺฐิตจิตฺตสฺส สทฺธมฺมํ อวิชานโต
ปริปฺลวปสาทสฺส ปญฺญา น ปริปูรตีติ.
“ปัญญาย่อมไม่บริบูรณ์ แก่ผู้มีจิตไม่มั่นคง ผู้ไม่รู้แจ้งซึ่งพระสัทธรรม ผู้มีความเลื่อมใสอันเลื่อมลอย” ดังนี้ ฯ
เพราะฉะนั้น ศรัทธากับปัญญาต้องปรับให้เสมอกัน จิตใจจะได้มั่นคงและไม่หวั่นไหวไปตามอารมณ์ใดๆและไม่ครั่นคร้ามต่อภยันตรายใดๆทั้งสิ้น
สาระธรรมจากธรรมบทภาค ๒ (เรื่องจิตตหัตถเถระ)
พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ)
14/6/64
0 comments: