วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2564

“สทฺธา สาธุ ปติฏฺฐิตา - ศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้วยังประโยชน์ให้สำเร็จ”

มีพระพุทธพจน์ในสังยุตตนิกาย สคาถวรรคว่า “สทฺธา  สาธุ  ปติฏฺฐิตา” แปลความว่า  “ศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้วยังประโยชน์ให้สำเร็จ”

ถามว่า “ศรัทธาที่ตั้งมั่น เปรียบประดุจอะไร ?”

ตอบว่า “ศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้วนั้น เปรียบประดุจขุนเขาหิมพานต์ เพราะเป็นศรัทธาที่ตั้งมั่นอันมาแล้วด้วยมรรค หรือประกอบด้วยองค์มรรค ๘ มีความเห็นชอบเป็นต้น”

ถามว่า “ศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้วยังประโยชน์ให้สำเร็จได้อย่างไร ?”

ตอบว่า  “บุคคลผู้มีศรัทธา ย่อมงอกงามด้วยความเจริญ ๕ ประการ คือ

๑. ศรัทธา (ความเชื่อ)  ๒. ศีล (การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย)  ๓. สุตะ (การสดับตรัสฟังหาความรู้)  

๔. จาคะ (การเสียสละ)  ๕. ปัญญา (ความรอบรู้)

ความเจริญแห่งคุณธรรม ๕ ประการนี้ ย่อมเกิดขึ้นได้เพราะอาศัยศรัทธาที่ตั้งมั่นดีแล้ว ประดุจต้นไม้อาศัยขุนเขาสูงจึงเติญโตเป็นต้นไม้ใหญ่ได้ฉะนั้น”

สมจริงดังคำที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ในมหาสาลปุตตสูตร (พระสูตรว่าด้วยต้นสาละใหญ่กับกุลบุตร) ว่า

“ภิกษุทั้งหลาย ไม้สาละใหญ่อาศัยขุนเขาหิมพานต์ ย่อมงอกงามด้วยความเจริญ ๕ ประการ ความเจริญ ๕ ประการ อะไรบ้าง คือ

๑. กิ่ง ใบแก่ และใบอ่อน  ๒. เปลือก  ๓. สะเก็ด  ๔. กระพี้  ๕. แก่น

ภิกษุทั้งหลาย ไม้สาละใหญ่อาศัยขุนเขาหิมพานต์ ย่อมงอกงามด้วยความเจริญ ๕ ประการนี้ ฉันใด

ชนภายใน (ชนภายใน ในที่นี้หมายถึงภรรยา บุตร ธิดา) อาศัยกุลบุตรผู้มีศรัทธา ย่อมงอกงามด้วยความเจริญ ๕ ประการ ฉันนั้นเหมือนกัน

ความเจริญ ๕ ประการ อะไรบ้าง คือ

๑. ศรัทธา (ความเชื่อ)  ๒. ศีล (การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย)  ๓. สุตะ (การสดับตรับฟังหาความรู้)   ๔. จาคะ (การเสียสละ)   ๕. ปัญญา (ความรอบรู้)

ภิกษุทั้งหลาย ชนภายในอาศัยกุลบุตรผู้มีศรัทธา ย่อมงอกงามด้วยความเจริญ ๕ ประการนี้ ดังนี้”

(มีพระคาถาประพันธ์ไว้ว่า)

“ภูเขาหินมีอยู่ในป่าใหญ่ หมู่ไม้เหล่านั้นอาศัยภูเขานั้น เจริญงอกงามเติบโตในป่า แม้ฉันใด

บุตร ภรรยา พวกพ้อง อำมาตย์ หมู่ญาติ และชนผู้อาศัยเขาเลี้ยงชีพ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน อาศัยกุลบุตรผู้มีศรัทธา ผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ย่อมงอกงามในโลกนี้

ชนผู้มีปัญญาเห็นแจ้ง เห็นศีล จาคะ และสุจริต (ความประพฤติดี) ของกุลบุตรผู้มีศรัทธานั้นแล้วย่อมทำตาม

บุคคลประพฤติธรรมซึ่งเป็นทางนำสัตว์ไปสู่สุคติ ย่อมเพลิดเพลินในโลกนี้สมปรารถนา ย่อมบันเทิงในเทวโลก ดังนี้แล.

สาระธรรมจากมหาสาลปุตตสูตร (ว่าด้วยต้นสาละใหญ่กับกุลบุตร) ในอังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต

พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ) 

10/12/64






Related Posts

  • “ความฉลาด” คืออะไร? “คนฉลาดจริง” เป็นอย่างไร?“ความฉลาด” คืออะไร? “คนฉลาดจริง” เป็นอย่างไร?“คนฉลาด” ที่หลายคนเข้าใจ คือเก่งในทุกเรื่อง อธิบายได้ทุกอย่าง มีเหตุ มีผล แต่แก้ปัญหาชีวิตให้ตัวเองและสังคมไม่ได้ น… Continue Reading
  • "ดีกับเขา แค่เท่าที่เขาดีกับเรา" -พ.ส."ดีกับเขา แค่เท่าที่เขาดีกับเรา"ดีกับเขา แค่เท่าที่เขาดีกับเรา ถ้าเมื่อไหร่เขาไม่กับดีกับเราแล้ว ก็ให้หยุดให้เลิก ไม่ต้องไปพยายามทำดีเพียงเพื่อเอาใจคนอื่นอย่าเอ… Continue Reading
  • พระไตรปิฎกเป็นดังสาคร (ทะเลใหญ่)พระไตรปิฎกเป็นดังสาคร (ทะเลใหญ่)พระพุทธพจน์คือพระไตรปิฎก จัดเป็นนัยสาคร ทะเลใหญ่อันประดับไปด้วยหัวข้อสำคัญมากมายท่านกล่าวไว้ว่า “ปีติโสมนัสอันไม่มีที่สิ้นสุด ย่… Continue Reading
  • พระสัพพัญญุตญาณเป็นดังสาคร (ทะเลใหญ่)พระสัพพัญญุตญาณเป็นดังสาคร (ทะเลใหญ่)มีคำปุจฉาว่า “ญาณสาคร เป็นไฉน ?”  มีคำตอบว่า “พระสัพพัญญุตญาณ ชื่อว่าญาณสาคร”ท่านอรรถาธิบายไว้ว่า “จริงอยู่ ญาณอื… Continue Reading
  • สาคร คือทะเลสาคร คือทะเลสาคร (ทะเล) มี ๔ ประการ คือ๑. สังสารสาคร (สาคร คือ สงสาร ได้แก่การเวียนว่ายตายเกิด)๒. ชลสาคร (สาคร คือ น้ำมหาสมุทร ได้แก่ทะเลใหญ่)๓. นยสาคร (สาคร คื… Continue Reading

0 comments: