วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ทุกสิ่งถ้าไม่ยึดมั่นก็ไม่มีความทุกข์

ทุกสิ่งถ้าไม่ยึดมั่นก็ไม่มีความทุกข์

อะไรก็ตาม ถ้าไม่ได้ยึดมั่นแล้วก็ไม่มีความทุกข์ แต่พอเรามีความยึดมั่น ชนิดที่ถอนไม่ออก สลัดออกไปไม่ได้ เราจึงเป็นทุกข์ เช่นความเจ็บปวดเกิดขึ้น เราสลัดออกไปไม่ได้ เราก็เจ็บปวดอยู่ส่วนหนึ่ง ไปยึดมั่นถือมั่นเข้าอีก ก็เจ็บปวดมากขึ้นในทางจิตใจ อีกหลายเท่า

ถ้าเจ็บปวดแต่ทางกายล้วนๆ ก็เป็นส่วนน้อยส่วนหนึ่ง แต่ถ้าเกิดยึดมั่นทางจิตใจ คือมีความกลัวมาก มีความหวั่นวิตกมาก เสียอกเสียใจมาก หรือขัดแค้นขึ้นมาโดยวิธีใดก็ตาม ก็กลายเป็นเจ็บที่ใจเพิ่มขึ้นอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นความทุกข์มากในที่นี้

รวมความแล้วก็ว่า ความทุกข์ที่เกิดมาจากความเจ็บปวดทางร่างกายล้วนๆ หรือความหิวกระหายที่เป็นเรื่องทางร่างกายล้วนๆ เหล่านี้ ไม่เป็นทุกข์มากมายอะไร และจะไม่เรียกว่าความทุกข์ ในกรณีของธรรมะด้วยซ้ำไป ต่อเมื่อใดมีความยึดมั่นถือมั่น ในความเจ็บปวด ในความหิวกระหาย หรือทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นแก่ตนแล้ว ก็เรียกว่า มีความทุกข์จากความยึดม้่นถือมั่นนั้น

เมื่อใดว่างจากความยึดมั่นถือมั่น ก็ไม่มีความทุกข์เลย มีจิตใจผิดแปลกไปอย่างตรงกันข้าม เหมือนอย่างว่าเวลานี้ ถ้าท่านผู้ใดไม่ได้ยึดมั่นอะไร ก็ไม่มีความทุกข์ ผิดกันกับเมื่ออยู่ที่บ้าน ที่เรือน หรือที่อยู่กับสิ่งที่ทำให้ยึดมั่นถือมั่น ซึ่งทำให้เป็นทุกข์ หรือว่านั่งอยู่ที่นี่ กำลังไม่เป็นทุกข์อย่างนี้ ลองนึกไปถึงเรื่องที่บ้านที่เรือน ซึ่งเป็นที่ตั้งของความยึดมั่น เหตุใด อย่างใดก็ตาม จะเกิดเป็นทุกข์ขึ้นมาทันที ทั้งที่นั่งอยู่ที่นี่

ปรมัตถสภาวธรรม (น.๒๐๐)

ธรรมโฆษณ์ l พุทธทาสภิกขุ

Credit: สโมสรธรรมทาน - co dhamma space

"หลวงพ่อโตมหายาน" จ.สมุทรสาคร

ที่ วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ริมคลองดำเนินสะดวก อ.บ้านแพ้ว มีอุทยานหลวงพ่อโตมหายาน ประดิษฐานหลวงพ่อกลางถ้ำภูเขา หน้าผาจำลองที่มีน้ำตกไหลลงมาหลังองค์พระ ยิ่งใหญ่อลังการเหมือนอยู่เมืองจีน 






Previous Post
Next Post

0 comments: